มีปริศนาธรรมที่กล่าวเกี่ยวกับชีวิตไว้อย่างน่าสนใจว่า "อะไรเอ่ย มาดำไปขาว มายาวไปสั้น มามั่นไปคลอน มาหย่อนไปตึง มาซึ้งไปเซอะ" คำเฉลยมีดังนี้
มาดำไปขาว คือเส้นผมของมนุษย์จะดกดำตอนวัยต้น พอวัยปลายกลับกลายเป็นสีขาว นั่นคือความเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่าง ๆ เป็นสัจธรรมชีวิตว่าสังขารไม่เที่ยง ไม่ทนทาน ไม่มีตัวตนให้ยึดมั่นถือมั่น จึงควรทำชีวิตให้สะอาดบริสุทธิ์ประดุจเส้นผมนั้น
มายาวไปสั้น คือสายตาผู้สูงอายุจะมองเห็นในระยะใกล้ได้ชัดเจนกว่าระยะไกล แต่เป็นการเห็นที่ชัดเจนแน่นอน เป็นคติเตือนใจว่าจงมองตนให้มากเพื่อจะได้ไม่ประมาทหลงวัย
มามั่นไปคลอน คือฟันจะต้องโยกคลอนหลุดร่วงไปตามวัยอันควร สิ่งนี้เป็นคติเตือนใจว่า สิ่งทั้งปวงไม่ควรยึดมั่น เพราะมีอันต้องเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา
มาหย่อนไปตึง คือหูผู้สูงอายุจะตึงฟังอะไรไม่ค่อยได้ยิน สิ่งนี้เป็นคติเตือนใจว่า ผู้สูงอายุควรใส่ใจทางธรรมอันเป็นทางสุขสงบเงียบให้มากกว่าทางโลกีย์วิสัยซึ่งมีแต่ความวุ่นวาย
มาซึ้งไปเซอะ คือผู้สูงอายุจะมีความจำไม่ดีหลงลืมง่าย จึงเป็นคติเตือนใจว่า เรื่องใดที่ไม่ควรจำก็อย่าไปจำให้ฝึกหลงลืมเสียบ้าง
มนุษย์เกิดมาเพราะกฎแห่งธรรมชาติ ชีวิตจึงต้องเป็นไปตามกฎแห่งธรรมชาติตามปริศนาธรรมที่กล่าว การจะหนีพ้นจากปริศนาธรรมนี้ไปได้ ก็ต้องหนีจากกฎแห่งธรรมชาติ นั่นคือการไม่เกิด
..............................