วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2561

ใจแม่



                “มารบ่มี บารมีบ่แก่ ลูกบ่ได้ฟังคำบ่นของแม่ ยากนักจักเป็นคน” เป็นสุภาษิตที่บางท่านอาจเคยได้ยินกันมาแล้วเมื่อสมัยยังเรียนหนังสือ และอาจลืมถึงความหมายไปแล้ว มาย้อนถึงความหมายกัน
                มาร หมายถึง อุปสรรคที่มาขัดขวางไม่ให้ทำในสิ่งที่ต้องการได้สำเร็จ ซึ่งตามปกติคนมักมองในแง่ร้ายฝ่ายเดียว แต่แง่ดีของมารก็คือเป็นเครื่องทดสอบความรู้ความสามารถและทดสอบศักยภาพของคนได้ด้วย
                บารมี คือคุณธรรมของคน ซึ่งจะแก่กล้าก็ด้วยมีมารเข้ามาขัดขวาง และสามารถขจัดมารนั้นได้
                คำบ่น หมายถึง คำว่ากล่าวตักเตือน คนที่เป็นบุตรธิดาจะเป็นคนดี คนเก่ง คนกล้า เป็นคนมีคุณค่า มีประโยชน์ก็ด้วยคำบ่นของแม่ ถึงบางครั้งจะตักเตือนหรือดุด่าด้วยถ้วยคำที่รุนแรง แต่ก็เพราะมีความรักและปรารถนาดีเป็นพื้นฐาน ดังมีเรื่องเล่าในอรรกถามงคลสูตรว่า
                แม่คนหนึ่ง ไม่อนุญาตให้ลูกเข้าไปเที่ยวในป่า แต่แม้จะห้ามปรามอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ลูกก็ยังดึงดันจะไปให้ได้จึงเกิดโทสะตวาดไปว่า “ขอให้ควายป่าขวิดมันให้ตายเสีย” เมื่อลูกได้หนีเที่ยวเข้าไปในป่าได้เพียงพักเดียว ก็มีควายป่าดุร้ายไล่ขวิดจริงๆ จนเมื่อจวนตัว ได้ตั้งสัจจาอธิษฐานว่า “ปากของแม่พูดสิ่งใด ขออย่าให้เกิดสิ่งนั้นขึ้น แต่ใจของแม่คิดสิ่งใดขอให้สิ่งนั้นเกิด” สิ้นคำอธิษฐาน ควายป่าก็หยุดนิ่งเหมือนถูกตรึงไว้กับที่ราวกับว่ามันมีใจเมตตาเหมือนแม่ที่รักลูก
                โดยการกระทำ แม่ก็เป็นมนุษย์ปุถุชนผู้หนึ่ง มีผิดมีถูก มีพลั้งมีเผลอเหมือนคนทั่วไป แต่โดยจิตใจแม่มีความรักที่ใครๆ ในโลกไม่สามารถมีให้ได้ ลูกที่ดีจึงไม่ควรเบื่อหน่ายเกลียดชังต่อคำบ่นคำสอนของแม่ แต่ควรน้อมรับด้วยความเคารพ เพราะนั่นเป็นมนต์วิเศษ วิเศษเพราะออกจากใจที่มีแต่ความรักอันบริสุทธิ์
............................................

เรื่องของคนแก่


เรื่องของคนแก่
                เป็นที่รู้กันว่า ทุกขณะที่เวลาผ่านไป เราก็แก่ขึ้นไปตามลำดับ ผ่านไปครบหนึ่งปีก็แก่ขึ้นไปอีกหนึ่งปี ความแก่ของร่างกายนี้ไม่มีใครปรารถนา ในทางพระพุทธศาสนาถึงกับระบุไว้ว่า ชราปิ ทุกขา แปลว่า ความแก่เป็นทุกข์ เพราะเป็นที่รวมของความถดถอย ตั้งแต่ร่างกาย อวัยวะ กำลังวังชา และความทรงจำคิดอ่านต่างๆ แต่ก็เป็นความเสื่อมที่ไม่มีใครเอาชนะได้
                ความแก่อีกประการหนึ่ง คือความแก่ทางพฤติกรรมหรือนิสัยใจคอ เป็นเรื่องที่แก้ไขได้ เสริมสร้างได้ และควรสนใจให้มาก เพราะเกี่ยวข้องกับอนาคตและความสุขทุกข์โดยตรง ความแก่ชนิดนี้มีทั้งดีและไม่ดี ดังตัวอย่างที่ว่า
                                แก่ใช้เงินเกินตัวเรื่องพัวพัน             แก่พนันวันหน้าท่าต้องแย่
                แก่เมาเหล้าเมารักมักปรวนแปร                       แก่ยุแหย่นินทาแก่สาบาน
                แก่สอพลอยอให้คิดเพราะอิจฉา                       แก่ตัณหาพาจิตคิดฟุ้งซ่าน
                แก่ขี้เกียจหลังยาวไม่เข้าการ                              แก่หลบงานหายหน้าเป็นอาจิณ
                แก่เมตตาการุณมีบุญหนัก                                 แก่รู้จักละบาปกำราบสิ้น
                แก่เอื้อเฟื้อผู้คนได้ยลยิน                                    แก่หากินสินทรัพย์นับอนันต์
                แก่พากเพียรเรียนดียิ่งมีชื่อ                                แก่สัตย์ซื่อจะสร้างทางสุขสันต์
                แก่ร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวกลมเกลียวกัน          แก่รู้ทันชาติชราพาปล่อยวาง
                เมื่อเวลาผ่านไปอีกหนึ่งปี ไม่ควรคิดถึงเฉพาะความแก่ทางร่างกายเท่านั้น แต่ควรศึกษาพฤติกรรมหรือความเคยชินที่ผ่านมาว่าจะต้องลดหรือเพิ่มความแก่ชนิดใดบ้าง เพื่อให้แก่อย่างมีคุณค่าหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ยิ่งแก่ยิ่งมีราคา
............................................

คนไม่มีบุญ



                มีเรื่องเล่าว่า เศรษฐีใจบุญท่านหนึ่ง ต้องการจะแจกทานเป็นเวลาสามวัน จึงให้ประกาศไปทั่ว ขอทานคนหนึ่งได้ยินคำประกาศนั้นจึงไปรับทานกับเขาบ้าง วันแรก ไปยืนต่ออยู่ท้ายแถวคนอื่นๆ เมื่อเศรษฐีแจกทานมาถึงท้ายแถวก็หมดพอดี
                วันรุ่งขึ้น ขอทานคนเดิมคิดว่าเพราะเราไปสายจึงไม่ได้รับทาน จึงไปแต่เช้าตรู่ ยืนรออยู่เป็นคนแรกแต่เศรษฐีเปลี่ยนวิธีแจกใหม่ เพราะต้องการให้ได้ทั่วถึงกัน จึงแจกจากท้ายแถวขึ้นมา พอใกล้จะถึงขอทานคนเดิมของก็หมดลงอีก
                วันที่สาม ขอทานคนเดิมไม่ยอมแพ้วาสนาตัวเอง คราวนี้ไปยืนแทรกอยู่ตรงกลาง คิดว่าถึงอย่างไรก็ไม่พลาดแน่ ฝ่ายเศรษฐีสั่งให้แจกทาน แต่วันนี้ให้บุตรสาวมาช่วยแจกจากต้นแถวลงไป ส่วนตัวเศรษฐีแจกจากท้ายแถวขึ้นมา แต่พอแจกมาถึงกลางแถวยังไม่ทันถึงของทานคนเดิมของก็หมดอีกจนได้ เป็นอันว่าขอทานคนนั้นไม่ได้รับของแจกทานเลยสักครั้งเดียว
                ในชีวิตปัจจุบัน เราอาจเคยพบเหตุการณ์ในลักษณะนี้บ้าง คือบางทีนึกว่าจะต้องได้แน่ๆ แต่ก็ไม่ได้ หรือบางเรื่อง พยายามอย่างถึงที่สุดแล้วก็ไม่สำเร็จ แต่อีกคนหนึ่งกับได้มาง่ายๆ อย่างคิดไม่ถึง ทั้งยากจะอธิบายว่าเป็นเพราะอะไร
                ในทางพระพุทธศาสนาสอนเรื่อง ปุพเพกตปุญญตา ความเป็นผู้มีบุญอันกระทำไว้ในกาลก่อนว่า เป็นเครื่อง สนับสนุนชีวิต ในปัจจุบัน ได้อย่างสำคัญ บุญในลักษณะนี้เอง ที่ท่านว่าเอามาแข่งกันไม่ได้ ดังนั้นจึงควรมีใจรักในการทำบุญแม้จะไม่เห็นผลทันตา เพราะในโลกนี้ไม่เคยมีใครปลูกมะม่วงแล้วได้กินมะม่วงที่ปลูกในทันที มีแต่ปลูกมะม่วงแล้วรอ แล้วได้กินมะม่วงที่ปลูก แต่ถึงอย่างนั้น การรอก็ไม่เป็นทุกข์สำหรับผู้มีใจรัก เขาจะรดน้ำ พรวนดิน ดูแลรักษาอย่างดี มีความสุขไปพร้อมกับการเจริญเติบโตของต้นมะม่วงนั้น บุญกุศลก็เช่นกัน หากปรับความเห็นให้ถูกต้อง ก็จะมีความสุขไปพร้อมกับการทำดีนั้นได้ และความดีที่สั่งสมนั้น เมื่อถึงโอกาส จะอำนวยผลให้อย่างน่าอัศจรรย์ได้ เพราะเป็นผู้มีบุญอันได้กระทำไว้ในกาลก่อนนั่นเอง
............................................