ว่ากันว่า เวลาฝนตั้งท่าจะตกใหญ่ ลิงจะหักกิ่งไม้ที่มีใบสดๆ มาทำซุ้ม และจะเอาใจใส่ส่วนที่เป็นหลังคา เป็นพิเศษ มันจะส่องดูใต้หลังคาอย่างระมัดระวัง ถ้าพบช่องพบรูแม้นิดเดียว มันจะ หักกิ่งไม้ มาแซมเสริม เป็นอย่างดี แต่เมื่อฝนตกลงมาจริงๆ แทนที่ลิงจะลงไปอยู่ใต้หลังคา กลับขึ้นไปนั่งตากฝนอยู่บนหลังคา หน้าตาเฉย ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ก็แสดงว่า ลิงมันมีอุปนิสัยของมันเอง ซึ่งบางทีมนุษย์เราอาจไม่เข้าใจ
มนุษย์ก็มีอุปนิสัยแตกต่างกัน หากอยากทราบว่า ตนเองมีอุปนิสัยอย่างไรแล้ว ท่านให้สังเกตปฏิกิริยาครั้งแรก ที่เรามีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพราะนั่นคือ ภาพสะท้อนอุปนิสัยของคนเรา ทางพระพุทธศาสนา เรียก อุปนิสัย นี้ว่า "จริต" มี ๖ ประการ ด้วยกันคือ
๑. คนราคจริต - มีอุปนิสัยรักสวยรักงาม มีอารมณ์ศิลปิน มองอะไรต่างๆ ในแง่ดี
๒. คนโทสจริต - มีอุปนิสัยใจร้อน โกรธง่าย มองอะไรในแง่ร้าย ชอบความรุนแรง
๓. คนโมหจริต - มีอุปนิสัยเซื่องซึม ทำ พูด หรือคิดอะไรมักขาดเหตุผล หลงติดสิ่งใดสิ่งหนึ่งง่ายๆ
๔. คนสัทธาจริต - มีอุปนิสัยใจอ่อน เชื่อง่าย ถูกชักจูงง่าย อารมณ์ อ่อนไหวง่า
๕. คนพุทธิจริต - มีอุปนิสัยหนักแน่น ชอบคิดค้นหาเหตุผลของสิ่งต่างๆ ไม่เชื่อใครง่ายๆ ชอบถกเถึยงโต้แย้ง
๖. คนวิตกจริต - มีอุปนิสัยจับจด วอกแวก ชอบคิดฟุ้งซ่าน วิตกกังวล
อุปนิสัยหรือจริตของคน ทั้ง ๖ มีลักษณะทั้งสร้างสรรค์และทำลาย ทั้งบวกทั้งลบ คนๆ หนึ่งอาจมีหลายจริตได้ แต่จะมีจริตชนิดหนึ่ง เป็นตัวนำเสมอ ดังนั้น ควรพิจารณาด้วยใจเป็นกลางว่า เราเป็นคนประเภทไหน มีจริต ชนิดไหนนำหน้า แล้วหาทางส่งเสริมจริตที่เป็นฝ่ายสร้างสรรค์ และพยายามระวัง ยับยั้งจริตที่เป็นฝ่ายทำลาย ไม่ให้เกิดขึ้น ก็สามารถประคองตัวเอง ให้อยู่รอดปลอดภัยและเจิรญ