วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

มนต์รัก

             ธรรมชาติของทุกคนย่อมต้องการเป็นที่รักของผู้อื่น ไม่ต้องการเป็นที่รังเกียจของใครๆ วิธีทำให้คนอื่นรักมีด้วยกันหลากหลายตามความเชื่อที่ต่างกันออกไป ไม่เว้นแม้แต่การหันไปพึ่งคุณไสยหรือเวทมนต์คาถา เพื่อช่วยให้ดลใจให้คนอื่นรัก ทางพระพุทธศาสนาได้สอนหลักปฏิบัติสำหรับยึดเหนี่ยวใจคนให้เกิดความรักที่เรียกว่า สังคหวัตถุหรือมนต์รักไว้สี่ประการคือ

                ๑.ทาน เป็นผู้ให้ ยินดีเสียสละแบ่งปัน ทั้งเพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น และเพื่อแสดงน้ำใจ

                ๒.ปิยวาจา จะพูดอะไรก็พูดด้วยถ้อยคำที่ไพเราะน่าฟัง แม้จะต้องตำหนิกล่าวโทษ ก็แสดงเหตุผลด้วยถ้อยคำสุภาพ ไม่หยาบกระด้างหรือใช้อารมณ์

                ๓.อัตถจริยา ทำตังให้เป็นประโยชน์ ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยกำลังกาย กำลังความคิด แม้เขาไม่ออกปากก็มีน้ำใจ ไม่ดูดาย

                ๔.สมานัตตตา วางตัวเหมาะสม คือวางตัวเสมอต้นเสมอปลาย และเหมาะสมกับฐานะที่เป็น เช่นในฐานะที่เป็นลูก เป็นพ่อแม่ เป็นสามีภรรยา เป็นเพื่อน ฯลฯ

                ความรักเป็นเรื่องของจิตใจ ต้องอาศัยความดีเป็นสะพานเชื่อมให้เกิดความซาบซึ้งประทับใจต่อกัน มนต์รักจึงไม่ใช่มนต์ดำที่ปกปิด แต่เป็นมนต์ขาวที่เปิดเผย ไม่ใช่มนต์เสกแต่เป็นมนต์สร้าง

                                อันวิชาอาคมผสมเสน่ห์     สำแดงเล่ห์หลอกคนว่ามนต์ขลัง

                เสียเวลาประวิงไม่จริงจัง                   เพราะมนต์ขลังมีอยู่ทั่วในตัวเรา

                คือกิริยาวาจาอัชฌาสัย                        แม้ทำไว้ให้ดีไม่มีเฉา

                ประชาชนยลพักตร์ย่อมรักเรา          ไม่ต้องเป่าเสกสั่งก็ขลังเอง.

............................................