กัลยาณะการี
กัลยาณัง ปาปะการี จะ ปาปะกัง แปลว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
เป็นพุทธภาษิตที่วิญญูชนทั่วไปยอมรับว่า ถูกต้องชัดเจนไม่มีข้อสงสัย
แต่ก็มีอีกหลายคนเกิดสงสัยว่า “ทำดีได้ดีจริงหรือ”
เพราะไปเห็นบางคนทำดีแล้วไม่ได้ดี แต่บางคนทำไม่ดีกลับได้ดี
จึงเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า “ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป”
นี่เป็นความเข้าใจผิด ตีความหมายพุทธภาษิตผิด พุทธภาษิตก็บอกแล้วว่า ทำดีได้ความดี
ทำชั่วได้ความชั่ว ส่วนทำแล้วจะได้ลาภยศเงินทองหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ทั้งนี้เพราะลาภยศเงินทองนั้นไม่ใช่ตัวความดี
และไม่จำเป็นต้องได้มาด้วยการทำความดีเสมอไป
ส่วนคนที่ทำดีแล้วผลของความดียังไม่ปรากฏก็อาจจะเกิดความน้อยใจ
ท้อใจ และคิดพาลพาโลโทษคนอื่นไปต่างๆ นานา
เรื่องนี้ถ้าพิจารณาด้วยเหตุผลแล้วจะเห็นว่า เกิดข้อบกพร่องที่ตัวเราเอง ข้อบกพร่องที่เป็นปมด้อยของการทำงานที่สำคัญ
มี ๓ ประการ คือ
๑.
ทำไม่ถูกดี คือ ไม่ถูกดีของงาน งานทุกอย่าง ไม่ว่างานเล็กหรืองานใหญ่
มีดีประจำในตัวงานอยู่แล้ว เช่น งานซักผ้า ดีอยู่ตรงที่สะอาดเรียบร้อย
งานกวาดบ้านดีอยู่ตรงที่ทำให้หมดฝุ่นผง เมื่อซักผ้าไม่สะอาดเรียบร้อย
กวาดบ้านไม่หมดฝุ่นผง ก็ถือว่าทำไม่ถูกดี
๒.
ทำไม่ถึงดี ดีของงานแต่ละงาน อยู่ตื้นลึกไม่เท่ากัน ใกล้ไกลไม่เท่ากัน เช่น
งานซักผ้าแต่ละชนิด ใช้เวลาซักไม่เท่ากัน ผ้าเช็ดหน้าใช้เวลาซัก ๕ นาที สะอาด
ผ้าเช็ดตัวใช้เวลาซัก ๑๐ นาที สะอาด ถือว่าถึงดี หากซักผ้า ดังกล่าวใช้เวลาน้อยกว่าที่กำหนด
ผาก็ไม่สะอาด ถือว่าทำไม่ถึงดี
๓.
ทำไม่พอดี คือ ทำหย่อนดี ทำน้อยเกินไป หรือทำเกินดี ทำมากเกินไป เช่น
ซักผ้าเช็ดหน้าใช้เวลา ๓ นาที เวลาน้อยเกินไป ผ้าก็ไม่สะอาด ใช้เวลา ๒๐ นาที
เวลามากเกินไปผ้าอาจขาดได้ เมื่อใช้เวลาน้อยหรือมากเกินไป ถือว่าทำไม่พอดี
งานทุกอย่างเมื่อทำให้ถูกดี
ให้ถึงดี และให้พอดี กับดีของงานนั้นๆ แล้ว ก็จะได้ดีแน่นอน ดังนั้น
ข้อสงสัยที่ว่า ทำดีได้ดีจริงหรือ ขอยืนยันตามพุทธภาษิตว่า “ทำดีได้” จริง
..........................................