วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ครูชีวิต


                ความหมายของ “ครู” ที่เรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “แม่พิมพ์” หมายถึงคนที่เป็นแบบอย่างหรือสิ่งที่เป็นต้นแบบ ความหมายที่สอดรับกับภาษิตจีนที่ว่า “ครึ่งชีวิตแรกเรียนรู้จากโรงเรียน ครึ่งชีวิตหลังเรียนรู้จากชีวิตจริง” และจากภาษิตดังกล่าวนี้สามารถแบ่ง “ครู” ได้ ๒ ประเภท
                ๑. ครูโรงเรียน หมายถึง ครูผู้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ศิษย์ และสอนวิทยาการด้านต่างๆ ในห้องเรียน ครูประเภทนี้นับเป็นปูชนียบุคคลรองจากบิดามารดา เพราะเป็นผู้จุดประทีปทางปัญญา
                ๒. ครูชีวิต หมายถึง ครูผู้ทำให้ดูเป็นแบบอย่าง มีความหมายครอบคลุมถึงคน สัตว์ และเหตุการณ์ทุกอย่างที่เป็นแม่พิมพ์ให้ประพฤติปฏิบัติตามในทางที่ดี และละเว้นในทางที่ไม่ดีได้ ครูประเภทนี้นับว่ามีอิทธิพลสำคัญอย่างยิ่งต่อการกเปลี่ยนแปลงและแสดงพฤติกรรของคนเรา
                ทุกวันนี้ถ้าเราสังเกตสักให้ดี ก็จะได้พบได้เห็นหรือรับรู้พฤติกรรมที่มีผู้กระทำให้ดูเป็นแบบอย่างในฐานะ “ครูชีวิต” อยู่เสมอ เช่น
                อาจารย์หนึ่งอ้างตัวเป็นคนวิเศษ สร้างเรื่องเปรตปลอมขึ้นมาหลอกลวงผู้คน จนในที่สุดก็ถูกจับได้และต้องไปนอนชดใช้กรรมชั่วที่ตัวกระทำในคุก ก็ถือเป็นครูชีวิตคนหนึ่ง
                อดีตนักการเมืองผู้หนึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด ได้ฝากข้อคิดคำเตือนคนที่สูบบุหรี่ว่า “...อย่ารอให้เป็นโรคร้ายเสียก่อนจึงจะคิดเลิก ละ เพราะอาจจะสายเกินแก้...” นี่ก็ถือเป็นครูชีวิตอีกคนหนึ่ง
                นักศึกษาจากสถานศึกษาแห่งหนึ่งหลงผิดติดการพนันฟุตบอลจนเป็นหนี้สิน ต้องแก้ปัญหาให้กับชีวิตด้วยการฆ่าชิงทรัพย์ แล้วก็ถูกจับได้ในที่สุด การเรียนก็สะดุด ยุติอนาคตอันสดใสไว้แต่เพียงนั้น นี่ก็เป็นครูชีวิตเช่นกัน
                การศึกษาหาความรู้จากครูโรงเรียนนั้น เราแต่ละคนอาจจะทำได้ไม่เท่ากัน เพราะความไม่เท่าเทียมกันโดยฐานะทางเศรษฐกิจ ระดับสติปัญญาตลอดจนจังหวะเวลาและโอกาส แต่การศึกษาหาประสบการณ์จากครูชีวิตนั้น เราทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันเสมอ เพราะสิ่งที่อยู่รอบตัวเราก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เราได้รู้ได้เห็นทุกเมื่อเชื่อวันก็ดี ล้วนเป็นครูชีวิตของเราได้ทั้งสิ้น สำคัญอยู่ที่ว่าเราจะฉวยประโยชน์จากครูชีวิตได้เพียงไร และจะเลือกเดินทางในทางไหน ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราก็เท่านั้น

...................................