วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

จริต


                ว่ากันว่า เวลาฝนตั้งท่าจะตกใหญ่ ลิงจะหักกิ่งไม้ที่มีใบสดๆ มาทำซุ้ม และจาเอาใจใส่ส่วนที่เป็นหลังคาเป็นพิเศษ มันจะส่องดูใต้หลังคาอย่างระมัดระวัง ถ้าพบช่องพบรูแม้นิดเดียว มันจะหักกิ่งไม้มาแซมเสริมเป็นอย่างดี แต่เมื่อฝนตกลงมาจริงๆ แทนที่ลิงจะหลบอยู่ใต้หลังคา กลับขึ้นไปนั่งตากฝนอยู่บนหลังคา ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง ก็หมายความว่ามันเป็นอุปนิสัยของมันเอง ซึ่งบางทีมนุษย์เราอาจไม่เข้าใจ
                มนุษย์ก็มีอุปนิสัยแตกต่างกัน หากอยากทราบว่า ตนเองมีอุปนิสัยอย่างไรแล้ว ท่านให้สังเกตปฏิกิริยาครั้งแรกที่เรามีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพราะนั่นคือ ภาพสะท้อนอุปนิสัยของคนเรา ทางพระพุทธศาสนา เรียกอุปนิสัยนี้ว่า “จริต” มี ๖ ประการด้วยกัน
                ๑. คนราคจริต – มีอุปนิสัยรักสวยรักงาม มีอารมณ์ศิลปิน มองอะไรต่างๆ ในแง่ดี
                ๒. คนโทสจริต – มีอุปนิสัยใจร้อน โกรธง่าย มองอะไรในแง่ร้าย ชอบความรุนแรง
                ๓. คนโมหจริต – มีอุปนิสัยเซื่องซึม ทำ พูด หรือคิดอะไร มักขาดเหตุผล  หลงติดสิ่งใดสิ่งหนึ่งง่ายๆ
                ๔. คนสันธาจริต – มีอุปนิสัยใจอ่อน เชื่อง่าย ถูกชักจูงง่าย อารมณ์อ่อนไหวง่าย
                ๕. คนพุทธิจริต – มีอุปนิสัยหนักแน่น ชอบคิด ค้นหาเหตุผลของสิ่งต่างๆ ไม่เชื่อใครง่ายๆ ชอบถูกโต้เถียงโต้แย้ง
                ๖.คนวิตกจริต – มีอุปนิสัยจับจด วอกแวก ชอบคิดฟุ้งซ่าน วิตกกังวล
                อุปนิสัยหรือจริตของคนทั้ง ๖ มีลักษณะทั้งสร้างสรรค์และทำลาย ทั้งบวกทั้งลบ คนๆ หนึ่งอาจมีหลายจริตได้ แต่จะมีจริตชนิดหนึ่งเป็นตัวนำเสมอ ดังนั้น ควรพิจารณาด้วยใจเป็นกลางว่า เราเป็นคนประเภทไหน มีจริตชนิดไหนนำหน้า แล้วหาทางส่งเสริมจริตที่เป็นฝ่ายสร้างสรรค์ และพยายามระวังยับยั้งจริตที่เป็นฝ่ายทำลายไม่ให้เกิดขึ้น ก็จะสามารถประครองตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยและเจริญก้าวหน้าไปได้ด้วยดี

...................................