วันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557

สามดี


                ในนาทีสุดท้ายก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำนักโทษที่ถูกตัดสินประหารชีวิตไปสู่แดนประหารนั้น เจ้าหน้าที่จะถามคำถามสุดท้ายกับนักโทษจนเป็นกลายเป็นธรรมเนียมว่า “จะสั่งความไปบอกลูกเมียอย่างไรบ้าง” และเขาจะถือว่าคำสั่งสุดท้ายก่อนตายนั้นมีความสำคัญที่สุด เจ้าหน้าที่จะต้องพยายามทำตามที่เขาสั่ง ผลปรากฏว่า นักโทษทุกคนเมื่อสั่งความไปบอกลูกนั้น มักกล่าวเป็นแนวทางเดียวกันว่า “ขอให้ลูกประพฤติตนเป็นคนดี อย่างเอาอย่างพ่อเป็นอันขาด” จะเห็นได้ว่าความดีนั้นเป็นยอดปารถนาของนักโทษประหารทุกๆ คน ถึงแม้จะเคยทำความผิด ความชั่วถึงขนาดต้องโทษประหาร แต่จริงๆ ในส่วนลึกของหัวใจของเขาเหล่านั้นก็ยังต้องการความดี อยากเห็นความดี  ในทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงความดีไว้ ๓ ประการ ที่ผู้ต้องการดีจะต้องปลูกฝังอบรมให้มีในตน คือ
                ๑. รู้ดี โดยวิธีสากลที่ทำกันอยู่เป็นพื้นคือ การศึกษาจากแหล่งต่างๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดสติปัญญาเข้าใจรู้จักสิ่งต่างๆ ในโลกได้ดียิ่งขึ้น ช่วยส่องเหตุส่องผล ส่องผิดส่องถูก คอยกำจัดความมืดมนให้แก่ชีวิต จึงถือได้ว่า รู้ดี เป็นแสงสว่างคอยอำนวยช่วยประคองตนให้ดำเนินชีวิตไม่ผิดพลาด ดังพุทธภาษิตที่ว่า สุวิชาโน ภะวัง โหติ มีความหมายว่า ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ
                ๒. สามารถดี ซึ่งเป็นเครื่องแสดงถึงสมรรถภาพที่มีอยู่ในตน ในเรื่องการดำเนินชีวิตและการทำงานทั้งงานที่สร้างสรรค์ คือ งานที่ต้องทำให้เกิดใหม่ ใช้ประโยชน์ได้มีคุณภาพสูง และงานที่ซ่อมแซม คือสิ่งที่เสื่อมโทรม ต้องแก้ไขปรับปรุงให้มีคุณภาพดี นำไปใช้ประโยชน์ได้อีก คนที่มีความสามารถจึงเป็นที่ยอมรับจากคนทั่วไป
                ๓. ประพฤติดี หมายถึง พฤติกรรมที่แสดงออกทาง กาย วาจา ใจ คอยประคองควบคุมให้เป็นไปอย่างมีกฎเกณฑ์ ตามกฎหมายบ้านเมืองและกฎแห่งศีลธรรม ไม่ให้เป็นไปในทางก่อความเสียหายแก่ใครๆ  
                ความดีทั้ง ๓ ประการนี้ รู้ดี จะเกิดมีเพราะการศึกษา สามารถดี เกิดจากการฝึกฝน ส่วนประพฤติดี เกิดจากการสำรวม ดังนั้นเมื่อทุกคนต้องการความดี อยากจะเป็นคนดี ก็ขอให้ช่วยกันปลูกฝังเหตุปัจจัยของความดี ด้วยการศึกษา ฝึกฝน สำรวมตนกันเสียในอันดับแรก

.......................................