ความเครียดล้วนมีสาเหตุมาจากปัญหาต่างๆ
ที่กำลังรุมเร้าอยู่รอบด้าน บางคนเครียดมากจนนอนไม่หลับ ถึงกับต้องพึ่งยานอนหลับ
หรือยากล่อมประสาทก็มี บางคนเครียดมากต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาก็มี ฯลฯ
ความเครียดเป็นอาการผิดปกติ
เกิดขึ้นเป็นบางครั้งขณะเมื่อเกิดอาการผิดปกติเกิดขึ้น ถ้าปล่อยไว้ไม่รักษาให้ถูกวิธี
ก็อาจทำให้เกิดอาการโรคประสาทหรือโรคจิตได้ มีการแบ่งความเครียดเป็นประเภทไว้สามอย่าง
คือ
๑.เครียดทางร่างกาย
เช่น ขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดความเครียดหรือประสบเหตุ
เช่น ภัยพิบัติต่างๆ หรือการใช้พลังงานในร่างกายมากเกินไป วิธีแก้ไขก็คือ
พักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นดูแลสุขภาพและอยู่ในที่ที่เหมาะสม
๒.เครียดทางสมอง
สมองมีหน้าที่จำกับคิด
ถ้าคิดมากเกินไปหรือชอบคิดฟุ้งซ่านจนบังคับไม่ได้เป็นเหตุให้สมองเครียดได้เช่นกัน
วิธีแก้ไขก็คือทำจิตใจเป็นสมาธิ อย่าปล่อยให้ฟุ้งซ่านไปในเรื่องไม่เป็นเรื่อง
๓.เครียดทางใจ
ตามธรรมชาติแล้ว จิตใจสะอาดบริสุทธิ์ ต่อเมื่อถูกกิเลสและความทุกข์ต่างๆ
เข้าครอบงำก็ทำให้ขุ่นมัวเศร้าหมอง วิธีการแก้ไขความเครียดทางจิตใจก็คือ
ต้องมีสติรู้เท่าทันอารมณ์ต่างๆ ที่มากลุ้มรุมจิต
และหมั่นพิจารณาให้เห็นความจริงว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนตกอยู่ในความไม่เที่ยงแท้แน่นอน
มีเกิดมีดับไม่คงที่ และไม่มีอะไรเลยที่ควรจะยึดมั่นให้เป็นอย่างที่ต้องการได้
ฝึกพินิจพิจารณาความจริงเช่นนี้อยู่เสมอๆ ความเครียดทางใจก็จะค่อยๆ หายไป
คนส่วนใหญ่มักจะรู้จักความเครียดทั้ง
สามอย่างได้อย่างดี
แต่มีส่วนน้อยเท่านั้นที่รู้จักการพิฆาตความเครียดด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
จึงขอเสนอวิธีพิฆาตความเครียดดังกล่าวมาๆ ให้ลองพิจารณาดู
และโปรดอย่าลืมว่าถ้าเราไม่ฉลาดในการพิฆาตความเครียดแล้ว จะถูกความเครียดพิฆาตเอาอย่างแน่นอน
............................................