ความวางเฉย
อุเบกขา
แปลว่า ความวางใจเป็นกลาง หมายถึง วางใจเที่ยงธรรม
ไม่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะรักหรือชัง
เป็นธรรมะที่สำคัญประการหนึ่งสำหรับกำกับความประพฤติเพื่อให้ชีวิตมีคุณค่าน่าเชื่อถือ
อุเบกขามีความหมายคนละอย่างกับการวางเฉยที่หมายถึงการไม่รับรู้รับเห็น
ไม่สนใจไยดีต่อเหตุการณ์ที่ประสบ
อุเบกขานั้นเป็นการวางใจเป็นกลางหรือการวางเฉยด้วยเหตุผลทางปัญญา
ใช้ได้ในหลายกรณี เช่น วางเฉยเพราะพิจารณาเห็นกรรมที่สัตว์ทั้งหลาย
กระทำแล้วว่าควรได้รับผลดีหรือชั่ว สมควรแก่เหตุปัจจัยอันตนประกอบ รวมทั้งวางเฉยสงบใจดูในเมื่อไม่มีอะไรที่ต้องทำอีกแล้ว
เพราะเขารับผิดชอบตนได้ดีแล้ว เป็นต้น อุเบกขาจึงมีความหมายตรงกันข้ามกับอคติ
คือจิตใจที่ลำเอียง ไม่เที่ยงธรรม นั่นเอง
ในชีวิตประจำวันของคนเรามีเหตุการณ์ที่จะต้องใช้อุเบกขาอยู่เสมอ
เช่น ต้องวางใจให้เป็นกลาง ในการรับกรรมของสัตว์ทั้งหลาย
เพราะทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ต้องวางใจเป็นกลางในกรณีพิจารณาความดีความชอบให้แก่บุคคลที่ทำงาน
ไม่พิจารณาให้เพราะรัก เพราะชัง เพราะหลง หรือเพราะกลัว เป็นการส่วนตัว
แต่พิจารณาจากผลงานอย่างแท้จริง นอกจากนั้น อุเบกขาธรรมเมื่อตั้งมั่นในใจของบุคคลสดแล้ว
จะทำให้บุคคลนั้นเหตุผล มีความเที่ยงธรรม เหมาะที่จะรับผิดชอบงานสำคัญๆ สูงยิ่งๆ
ขึ้นไปด้วย
ฉะนั้น
การวางใจให้เป็นกลาง มีดวงจิตที่เที่ยงตรงยุติธรรม จึงเป็นคุณธรรมสำคัญของผู้นำในการสร้างขวัญและกำลังใจที่ถูกทางให้แก่น้อย
ขณะเดียวกันก็เป็นคุณธรรมสำหรับผู้น้อยที่จะประคองตนให้อยู่ในคลองธรรมที่ถูกต้องไม่เสียขวัญและไม่เสียกำลังใจง่ายๆ
ตรงกันข้ามกับการวางเฉยแบบไม่รับรู้รับเห็น ซึ่งนอกจากจะเป็นเครื่องบั่นทอนขวัญและกำลังใจของกันและกันแล้ว
ยังช่วยซ้ำให้สังคมทรุดโทรมไม่ก้าวหน้าอีกด้วย
ควรเริ่มต้นตรวจสอบตัวเราได้แล้วว่า
เข้าใจความหมายของอุเบกขากับความวางเฉยถูกต้องแล้วหรือยัง
............................................