วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

ตุ๊กแกกินหัวตัวเอง


                เมื่อเรื่องเล่าว่า ตุ๊กแกตัวหนึ่งอาศัยอยู่ที่ต้นไม่ต้นหนึ่ง มันเป็นสัตว์ที่เกียจคร้านอย่างมาก แต่ละวันไม่ยอมออกไปหากินอาศัยแมลงต่างๆ ที่อยู่ตามต้นไม้นั้นเป็นอาหาร เมื่อแมลงหมดและหิวหนักเข้าก็กัดกินขาตัวเองเพราะความหิวจัด เมื่อขาหมดแล้วก็กัดกินตัวเองจนเหลือแต่หัว ต่อมาเมื่อหิวสุดขีดจึงได้กินหัวตัวเองจนหมด
                ฟังดูแล้วก็รู้ทันทีว่าเป็นเรื่องโกหกและตลกอย่างเหลือเชื่อ แต่ในการดำเนินชีวิตของคนเราในปัจจุบันก็มีคนที่ประพฤติตัวแบบเหลือเชื่อทำนองเดียวกันนี้ คือมีคนจำนวนไม่น้อยบอกว่ารักชีวิตและครอบครัวตัวเองแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม แต่ละวันหมกมุ่นวุ่นวายอยู่กับอบายมุข อันเป็นทางแห่งความหายนะมีด้วยกันหกประเภท ๑.เมาลูกเดียว ๒.เที่ยวราตรี ๓.มโหรีไม่เว้น ๔.เล่นการพนัน ๕.ติดพันมิตรชั่ว และ ๖.ประพฤติเกียจคร้าน
                อบายมุขไม่ว่าประเภทไหนๆ หากตกอยู่ในอำนาจของมันจะให้ประสบกับความพินาศ เช่น การพนัน เพียงไปนั่งดูเขาเล่นก็ทำให้เสีย อย่างน้อยคือเสียเวลา ขั้นต่อมาคือมีความผิดในฐานะผู้ร่วมเหตุการณ์ และผู้สนับสนุนอยู่ในที ยิ่งถ้าลงมือเล่นด้วยก็ยิ่งเสียใหญ่ดังมีคำประพันธ์ที่ว่า
                                ถูกโจรปล้น สิบครั้ง ยังทนได้
                                เพราะโจรไม่ ถอนเสา เอาเรือนหนี
                                ถูกไฟไหม้ วิบัติ เหลือปัถพี
                                แต่หมดตัว ทั้งชีวี เพราะผีพนัน
                หยุดคิดสักนิด ไม่มีคำว่าสายเสียแล้วสำหรับการกลับตัวและเปลี่ยนใจเสียใหม่ จงพยายามรวมพลังกายพลังใจ สลัดอบายมุขทุกชนิดให้ห่างไกล แล้วจะพบกับความสุขสดใสในชีวิตและครอบครัวอย่างลึกล้ำ ตุ๊กแกในเรื่องนี้เพียงมันติดอบายมุขคือเกียจคร้านอย่างเดียวเท่านั้น ถึงกับกินหัวตัวเองได้ คนเราก็เช่นเดียวกัน แม้ติดอบายมุขเพียงประเภทเดียว ก็เหมือนกับกินชีวิตของตัวเองเข้าไปแล้ว ถ้าติดอบายมุขหลายประเภทเท่ากับว่ามิเพียงกินหัวตัวเองเท่านั้น แต่กำลังทำลายครอบครัว ทำลายเกียรติยศชื่อเสียงและวงศ์ตระกูลไปด้วย แล้วชีวิตจะเป็นเรื่องตลกร้ายน่ากลัวยิ่งกว่าตุ๊กแกกินหัวตัวเองอีกเป็นร้อยเท่า
                รักชีวิต รักครอบครัว โปรดอย่าทำตัวเป็นตุ๊กแกกินหัวตัวเอง

............................................