สัจธรรมความดี
คือสัจจะ นั้นได้แก่ ความจริง ความตรง ความแท้
เมื่อเป็นอัธยาศัยและความประพฤติของบุคคลก็มีคุณลักษณะเป็นห้าอย่าง
๑.ความจริงต่อการงาน
ทำอะไรทำจริงไม่ย่อท้อ มีสมบัติแห่งความเพียรสามประการอันได้แก่ ความพยายาม
ความอุตสาหะ และความบากบั่น
๒.ความจริงต่อหน้าที่
ได้แก่ การทำจริงและถูกต้องสมควรในการงานที่ตนรับผิดชอบ ซึ่งเรียกว่าหน้าที่
ไม่ประมาท ไม่หลีกเลี่ยง ไม่บิดเบือน และไม่ทำแบบกลิ้งกลอกหลอกลวง
ถ้าเป็นหน้าที่เกี่ยวกับการเก็บรักษาผลประโยชน์ก็ทำการโดยสุจริตเที่ยงตรง
ไม่คดโกงฉ้อราษฎร์บังหลวง ถ้าเป็นหน้าที่ตัดสินคน เช่น
หน้าที่ตุลาการซึ่งวินิจฉัยข้อเท็จจริงของบุคคลก็ดี
หน้าที่ผู้ปกครองซึ่งต้องดูแลรับผิดชอบทุกข์สุขของผู้อยู่ในปกครองก็ดี
ก็ทำการโดยยุติธรรม ไม่ลำเอียงเพราะความรัก ความชัง ความเขลาขลาด และความหวาดกลัว
๓.ความจริงต่อวาจา
ได้แก่ รักษาให้ได้จริงตามวาจาที่ตกลง เรียกสั้นๆ ว่ารักษาวาจา มีสามสถานคือ
รักษาคำสาบาน รักษาปฏิญาณ และรักษาสัญญา
๔.ความจริงต่อบุคคล
ได้แก่ ซึ่งตรงต่อมิตร สวามิภักดิ์ต่อเจ้าแห่งตน และกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ
๕.ความจริงต่อความดี
ได้แก่ ประพฤติความดีอย่างใดก็ประพฤติจริงให้เป็นอัธยาศัยเนื้อแท้ของตนอย่างนั้นจริงๆ
ไม่โลเล ไม่สับปลับ ไม่วาดหวั่นง่อนแง่น ไม่ทำเพื่อจะอวด
ไม่ทำเพื่อเอาหน้าและไม่ทำอย่างลวงโลก
ความจริงห้าประการนี้มีในท่านผู้ใด
ท่านผู้นั้นชื่อว่าตั้งมั่นในสัจธรรม เป็นพลังให้ทำการต่างๆ สำเร็จได้ดีตามประสงค์
ย่อมทำให้คนทั้งหลายเกิดความเชื่อถือ ความเคารพรัก
สักการะนับถือไม่เสื่อมคลายไม่จืดจางและให้เกิดรสอย่างซาบซึ้งในความดีของผู้มีสัจธรรมอย่างอมตะ
ดังพุทธภาษิตว่า
“สัจจัง
หะเว สาธุตะรัง ระสานัง ความสัตย์มีรสดียิ่งกว่ารสทั้งหลาย”
............................................