วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ลักษณะของความจริง


                สัจธรรมความดี คือสัจจะ นั้นได้แก่ ความจริง ความตรง ความแท้ เมื่อเป็นอัธยาศัยและความประพฤติของบุคคลก็มีคุณลักษณะเป็นห้าอย่าง
                ๑.ความจริงต่อการงาน ทำอะไรทำจริงไม่ย่อท้อ มีสมบัติแห่งความเพียรสามประการอันได้แก่ ความพยายาม ความอุตสาหะ และความบากบั่น
                ๒.ความจริงต่อหน้าที่ ได้แก่ การทำจริงและถูกต้องสมควรในการงานที่ตนรับผิดชอบ ซึ่งเรียกว่าหน้าที่ ไม่ประมาท ไม่หลีกเลี่ยง ไม่บิดเบือน และไม่ทำแบบกลิ้งกลอกหลอกลวง ถ้าเป็นหน้าที่เกี่ยวกับการเก็บรักษาผลประโยชน์ก็ทำการโดยสุจริตเที่ยงตรง ไม่คดโกงฉ้อราษฎร์บังหลวง ถ้าเป็นหน้าที่ตัดสินคน เช่น หน้าที่ตุลาการซึ่งวินิจฉัยข้อเท็จจริงของบุคคลก็ดี หน้าที่ผู้ปกครองซึ่งต้องดูแลรับผิดชอบทุกข์สุขของผู้อยู่ในปกครองก็ดี ก็ทำการโดยยุติธรรม ไม่ลำเอียงเพราะความรัก ความชัง ความเขลาขลาด และความหวาดกลัว
                ๓.ความจริงต่อวาจา ได้แก่ รักษาให้ได้จริงตามวาจาที่ตกลง เรียกสั้นๆ ว่ารักษาวาจา มีสามสถานคือ รักษาคำสาบาน รักษาปฏิญาณ และรักษาสัญญา
                ๔.ความจริงต่อบุคคล ได้แก่ ซึ่งตรงต่อมิตร สวามิภักดิ์ต่อเจ้าแห่งตน และกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ
                ๕.ความจริงต่อความดี ได้แก่ ประพฤติความดีอย่างใดก็ประพฤติจริงให้เป็นอัธยาศัยเนื้อแท้ของตนอย่างนั้นจริงๆ ไม่โลเล ไม่สับปลับ ไม่วาดหวั่นง่อนแง่น ไม่ทำเพื่อจะอวด ไม่ทำเพื่อเอาหน้าและไม่ทำอย่างลวงโลก
                ความจริงห้าประการนี้มีในท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นชื่อว่าตั้งมั่นในสัจธรรม เป็นพลังให้ทำการต่างๆ สำเร็จได้ดีตามประสงค์ ย่อมทำให้คนทั้งหลายเกิดความเชื่อถือ ความเคารพรัก สักการะนับถือไม่เสื่อมคลายไม่จืดจางและให้เกิดรสอย่างซาบซึ้งในความดีของผู้มีสัจธรรมอย่างอมตะ ดังพุทธภาษิตว่า
                “สัจจัง หะเว สาธุตะรัง ระสานัง ความสัตย์มีรสดียิ่งกว่ารสทั้งหลาย”

............................................