วันขึ้น
๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ชาวโลกรับรู้พร้อมกันว่า เป็นวันสำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา
เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นในโลก วันที่พระองค์ตรัสรู้สัจธรรม
และเป็นวันเสด็จดับขันธปรินิพพาน เมื่อวันดังกล่าวนี้มาถึงพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ต่างพากันบูชาสักการะพระพุทธองค์เป็นพิเศษ
และเรียกวันนี้ว่า “วันวิสาขบูชา”
นักปราชญ์ของโลกทั้งตะวันตกและตะวันออก
ได้แสดงทัศนะต่อพระพุทธองค์ และต่อหลักธรรมของพระองค์ไว้อย่างน่าสนใจ ดังตัวอย่าง
มหาตมะ
คานธี รัฐบุรุษของอินเดียผู้มีชื่อเสียงก้องโลก กล่าวถึงพระพุทธเจ้าว่า
“พระพุทธเจ้านั้นทรงดำรงอยู่ในฐานะเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ...”
รพินทรนาถ ฐากูร นักปราชญ์ชาวอินเดียผู้ได้รับรางวัลโนเบล กล่าวว่า
“พระพุทธเจ้าทรงเป็นพระโอรสของภารตประเทศที่รุ่งโรจน์ที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด
และชาญฉลาดที่สุดในโลก...”
ดร.เอส.
ราธกฤษณัน อดีตประธานาธิบดีของอินเดีย กล่าวว่า
“ไม่เคยมีเลยที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงอาการขุ่นเคือง
ไม่เคยมีเลยที่ถ้อยคำปราศจากเมตตาหลุดจากพระโอษฐ์ของพระองค์แม้แต่ครั้งเดียว”
ศาสตราจารย์
รีส เดวิดส์ นักปราชญ์ชาวอังกฤษ ผู้ก่อตั้งสมาคมบาลีปกรณ์ กล่าวว่า
“ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบระบบศาสนาใหญ่ๆ ของโลกแล้ว
ข้าพเจ้าไม่พบหลักฐานคำสอนของศาสนาใดจะเลิศล้ำกว่าอริยมรรคมีองค์ ๘ และ อริยสัจ ๔
ของพระพุทธเจ้าเลย...”
เซอร์
เอดวิน อาร์โนลด์ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “ประทีปแห่งเอเชีย” กล่าวว่า
“ข้าพเจ้าขอกล่าวซ้ำอีกว่าระหว่างพระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่นั้น
มีสายสัมพันธ์ทางสติปัญญาอยู่อย่างใกล้ชิดมาก...”
อัลเบิร์ต
ไอสไตน์ ยอดนักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า “ถ้าจะมีศาสนาใดๆ
ที่เข้ากันได้กับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ศาสนานั้นก็คือ พุทธศาสนา”
เป็นเวลานานมาแล้วที่นักปราชญ์และบุคคลสำคัญทั่วโลกต่างยกย่องพระพุทธศาสนา
องค์การสหประชาชาติก็ได้ประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลก
สำหรับประเทศไทยและคนไทยชาวพุทธ
เราแล้วสมควรอย่างยิ่งที่จะน้อมรำลึกและกระทำการบูชาให้ครบทั้ง ๒ ส่วน
คือบูชาด้วยวัตถุสิ่งของที่เรียกว่า “อามิสบูชา” และด้วยการปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนที่เรียกว่า
“ปฏิบัติบูชา” มิใช่เพียงรับรู้ว่าเรามีของดี มีคุณค่าที่โลกยกย่องนับถือแต่เพียงอย่างเดียว
หากแต่ควรให้ได้รับรสแห่งสันติสุขอันเกิดจากของดีนั้นด้วย
............................................