ในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ
ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับการดำรงชีวิตมากบ้าง
น้อยบ้างเนื่องจากเครื่องอุปโภคและบริโภคมีราคาสูงขึ้น
เป็นเหตุให้ต้องจ่ายเงินมากขึ้นตามไปด้วย ในขณะที่รายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก ทุกคนจึงมีความจำเป็นต้องหารายได้เพิ่มขึ้น
เพื่อให้เพียงพอกับรายจ่ายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
พระพุทธศาสนาสอนเรื่องเศรษฐกิจ
โดยให้คนขยันทำมาหากินในทางสุจริต
ให้รู้จักรักษาทรัพย์ที่หามาได้รู้จักคบคนดีเป็นมิตร
และมีความเป็นอยู่อย่างเหมาะสม รู้จักกำหนดรายได้รายจ่ายเลี้ยงชีวิตแต่พอดี
โดยแสดงถึงคุณสมบัติของพ่อค้าไว้ ๓ อย่างคือ
๑.
มีตาดี หมายถึง รอบรู้ในเรื่องหลักการค้าขาย รู้จักสินค้า รู้ต้นทุน รู้กำไร
๒.
มีความเพียร หมายถึง พยายามพิจารณาถึงกาลเทศะและสถานที่ รู้ว่าจะซื้อที่ไหนจะได้ของถูก
ขายที่ไหนจะได้ราคาดี รู้จังหวะเวลาตอนไหนควรซื้ออะไร ตอนไหนควรขายอะไร
แล้วทำอย่างต่อเนื่อง
๓.
รู้จักชอบพอกับคนรอบข้าง หมายถึง มีมิตรสหายมาก รู้จักทำตนให้น่าเชื่อถือ
เป็นที่นิยมและไว้วางใจของผู้อื่น มีน้ำจิตน้ำใจต่อลูกค้าและพ่อค้าด้วยกัน
คุณสมบัติของพ่อค้า
๓ ประการนี้ จะช่วยให้การค้าขายประสบผลสำเร็จ มีผลกำไร เข้าทำนองว่า “ซื้อง่ายขายคล่อง”
อาชีพค้าขายถ้าจะให้มั่นคงถาวร ต้องค้าขายโดยสุจริต
งดเว้นค้าขายสิ่งที่อุบาสกไม่ควรทำ ๕ ประการ ตามที่พระพุทธเจ้าสอนไว้คือ ค้าอาวุธ
ค้ามนุษย์ ค้าเนื้อสัตว์หมายถึงสัตว์ที่มีชีวิต ค้าน้ำเมารวมถึงสิ่งเสพติด
และค้ายาพิษ เพราะการค้าขายสิ่งเหล่านี้จะเกิดภัยอันตรายต่อตนเองและส่วนรวม
แม้บางครั้งจะทำให้ได้รับผลกำไรมากมาย เช่น การค้ายาเสพติด ถือว่าเป็นภัยต่อชาติ
ต่อแผ่นดิน เป็นการทำลายมนุษย์ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามากที่สุด
ฉะนั้น
พ่อค้าผู้หวังผลกำไรเพื่อสร้างฐานะและอนาคตของตนเอง และครอบครัวจะต้องมีคุณสมบัติ
๓ ประการ และเว้นการค้าขายที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม
จึงจะประสบความสำเร็จตามความประสงค์ทุกประการ
.........................................