ในโลกที่ไร้พรมแดน
หรือที่นิยมเรียกกันโดยทั่วไปว่า “โลกแห่งสิทธิเสรีภาพ”
มนุษย์มีสิทธิ์จะอยู่ที่ไหนหรือจะคบหาสมาคมกับใครก็ได้ทั้งนั้น
ประกอบกับความจำเป็นในการดำรงชีพ ทำให้เราต้องติดต่อกับคนอื่นซึ่งมีทั้ง
คนที่เรารัก คนที่เรารู้สึกเฉยๆ และแม้แต่กับคนที่เราเกลียด ดังนั้น
ตราบเท่าที่เรายังเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
เราก็จะต้องรู้จักปรับตัวเองและแก้ไขตัวเองให้เข้ากับผู้อื่นบ้าง
การที่จะทำตัวให้เป็นคนอยู่ที่ไหนอยู่ได้ และอยู่ได้อย่างมีคนรักนั้น
มีตัวอย่างแนวทางการปรับตัวได้พอประมาณดังนี้
๑.
ให้ระลึกไว้เสมอว่าในโลกนี้ไม่ได้มีแต่เราเท่านั้น แต่เรายังมีพ่อแม่
ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงที่ต้องติดต่อกัน ฉะนั้น การที่จะพูดอะไร จะทำอะไร
ก็ควรเอาใจเขามาใส่ใจเราด้วย
๒. พยายามพูดแต่สิ่งที่ดีงามของคนอื่น มองโลกในแง่ดี อย่าอิจฉาริษยา
พยาบาทปองร้าย
๓. ทำดีต่อคนอื่นอย่างจริงใจ
คือมีใจเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คนอื่นบ้าง รู้จักเสียสละเพื่อเพื่อนร่วมโลก
ตามสมควรแก่กำลังของตน
๔.
ไม่นินทาว่าร้ายใคร การนินทาว่าร้ายนั้น ย่อมก่อความเสียหาย
ทั้งแก่ผู้นินทาเองและผู้ถูกนินทา อีกทั้งยังเป็นที่น่าเบื่อหน่ายของเพื่อนฝูง ไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วย
๕.
หัดยอมให้คนอื่นบ้างในเรื่องที่พอจะยอมกันได้
บางคนต้องการจะให้คนอื่นตามใจตัวเองอยู่ข้างเดียว ใครจะคิดเห็นอย่างไรไม่สนใจ
มีแต่ทิฐิมานะ
๖.
ทำตัวให้เป็นบุคคลที่น่าสนใจ คือทำตัวให้มีชีวิตชีวาและร่าเริงสดชื่นอยู่เสมอ
มองโลกในแง่ดีพร้อมๆ กับเข้าใจความเป็นไปของโลกอย่างถูกต้อง
การเกิดมาเป็นมนุษย์
นับว่าเป็นโอกาสอันสุดแสนจะประเสริฐ
แม้ว่าเราจะเลือกที่เกิดไม่ได้แต่เราสามารถเลือกที่อยู่ได้ และที่วิเศษที่สุดคือ
เราสามารถเลือกอยู่อย่างมีความสุขได้ด้วย โดยพยายามปรับตัวดังกล่าวข้างต้น ทำได้อย่างนี้
จะอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้อย่างมีสันติสุข
....................................