วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557

เทวดาเดินดิน


                มีความเชื่อกันว่า เทวดาเป็นชีวิตประเภทหนึ่งที่เกิดในภพสูงกว่ามนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ มีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายกว่ามนุษย์มาก อุปโภคบริโภคแต่สิ่งของที่เป็นทิพย์ เหาะไปได้ตามปรารถนา ด้วยความเป็นอยู่ที่พิเศษดังกล่าว มนุษย์จำนวนมากเมื่อทำบุญหรือทำความดีจึงมักตั้งจิตอธิษฐานเพื่อให้ตนไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์
                เทวดาดังกล่าว เป็นภาวะที่มนุษย์จะพึงได้เกิดได้เป็นหลังตายจากโลกนี้ไปแล้ว เป็นเรื่องไกลตัว พิสูจน์ยากและยากที่จะรับประกันได้ว่า ทำบุญขนาดไหนจึงจะได้ไปเกิดเป็นเทวดา อย่างไรก็ตามพระพุทธศาสนามีแนวคำสอนอยู่ว่า มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงภาวะได้ด้วยแรงกรรมคือความประพฤติของตนเอง เช่น ถ้าใครประพฤติตนเป็นคนขี้ลักขโมย เขาก็จะเปลี่ยนภาวะเป็นโจรทันที ถ้าใครขยันศึกษาเล่าเรียน เขาก็จะเป็นบัณฑิต ถ้าใครบวชแล้วรักษาศีล ๒๒๗ ข้อ เขาก็จะเป็นภิกษุ และถ้าใครมีความละอายใจที่จะทำชั่ว พร้อมทั้งกลัวผลร้ายที่จะเกิดขึ้นหลังจาทำชั่วนั้น คุณธรรมในใจเช่นนี้ พระท่านเรียกว่า หิริโอตตัปปะ จะมีสภาพเหมือนเกราะอันเหนียวแน่นป้องกันความชั่วทั้งปวงได้ ผู้มีสภาพจิตเช่นนี้จะเปลี่ยนภาวะเป็นเทวดาทันที โดยมีพุทธศาสนสุภาษิต ว่า
                 “หิริโอตตัปปะสัมปันนา สุกกะธัมมะ สะมาหิตา สันโต สัปปุรสา โลเก  เทวะธัมมาติ วุจจะเร
                ผู้ที่สมบูรณ์ ด้วยหิริโอตตัปปะ (ละอายชั่วกลัวบาป) มั่นคงอยู่ในกุศลธรรม สงบระงับบาปได้แล้ว ท่านเรียกว่า เป็นเทวดาในโลก
การเป็นเทวดาในโลก หรือจะเรียกว่าเป็นเทวดาเดินดินดังหัวเรื่อง เป็นเรื่องใกล้ตัว พิสูจน์ง่ายและรับประกันได้แน่นอนว่าถ้ามีคุณธรรมดังที่แสดงไว้นี้ เราก็สามารถเป็นเทวดาได้ทันที ไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้า และที่สำคัญที่สุดก็คือ มนุษย์เป็นเทวดาเดินดินกันมากเท่าใด โลกก็จะมีความสงบร่มเย็นมากขึ้นเท่านั้น

.......................................