ภาพลวงตา
คนที่ไม่อยากเข้าวัด รับศีล
หรือฟังเทศน์ ย่อมมีเหตุผลต่างๆ กัน เหตุผลประการหนึ่งก็คือคิดว่าเป็นเรื่องโบราณ
ไม่ทันสมัย ไม่เหมาะแก่ตัวเอง แต่ก็น่าเชื่อได้ว่า
ความคิดชนิดนี้ก็น่าจะมีมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาคิดกันในปัจจุบันนี้
คนโบราณเมื่อร้อยปี พันปีก่อนก็คงต้องมีส่วนหนึ่งที่คิดเช่นนี้เช่นกัน ที่น่าสงสัย
คือเหตุใดความคิดนี้จึงไม่เป็นความคิดที่ตกยุค ล้าสมัยไปด้วยนะ
ในความเป็นจริงหลักของศีลธรรมมีแต่ทำให้คนทันสมัย
เช่น “ความสำรวม” ซึ่งเป็นหัวข้อที่ฟังชื่อแล้วน่าจะคร่ำครึสุดๆ
แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับเป็นว่า ในสังคมที่มีความเจริญ เขาจะต้องสำรวมระวังคำพูด
การกระทำ และกิริยามารยาทต่างๆ อย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ
ยิ่งการสำรวมใจด้วยแล้วยิ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะต้องรู้จักสำรวม ควบคุมใจ
ไม่ปล่อยไปตามอารมณ์ หรือสัญชาตญาณของตนเอง เพราะนั่นเป็นลักษณะดั้งเดิมของมนุษย์ที่ยังไม่มีการศึกษา
พัฒนา จึงมีแต่ความซื่อสัตย์ต่ออารมณ์และความต้องการของตนเองแต่ฝ่ายเดียว
การขาดสำรวมระวังตน จึงถือว่าเป็นคนทันสมัยไม่ได้แน่
ไม่ว่าจะพิจารณาจากแง่มุมไหนก็ตาม
สำหรับบางคนพอลืมตาขึ้น
มองออกไปข้างหน้า ก็เห็นสิ่งหนึ่งทั้งที่สิ่งนั้นไม่มีจริง
หรือมีจริงแต่เห็นเป็นอีกอย่างหนึ่ง เราเรียกสิ่งที่เห็นนั้นว่าภาพลวงตา
ซึ่งอาจทำให้วาดมโนภาพไปได้ร้อยแปด วิธีแก้ก็คือ เข้าไปดูใกล้ๆ ดูให้เห็นจริง
เหมือนผู้ที่คิดว่าศีลธรรมเป็นเรื่องล้าสมัย
ถ้าจะให้ยกตัวอย่างว่าข้อใดที่ล้าสมัยและข้อนั้นสอนว่าอย่างไร ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะหาคำตอบได้
แต่ทั้งที่ตอบไม่ได้นั่นแหละความรู้สึกลึกๆ
ก็ยืนยันกับตัวเองด้วยความมั่นใจอยู่อย่างนั้น วิธีแก้มีอย่างเดียว
คือศึกษาคำสอนนั้นๆ ให้รู้จริงเสีย แล้วอาจจะพบความจริงว่า
ความคิดที่ว่าศีลธรรมนั้นล้าสมัย แท้จริงแล้วเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น
............................................