วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2561

วันแห่งความมืด

 วันแห่งความมืด
                 วันและคืนที่มาถึงและผ่านไป แม้โดยข้อเท็จจริงจะเป็นเพียงกาลเวลาที่เป็นไปตามธรรมชาติแต่มนุษย์ก็อดที่จะเอาความเข้าใจของตนเองเข้าไปปรุงแต่งไม่ได้ ดังนั้น จึงเกิดมีวันดี วันร้าย วันมงคล และวันไม่เป็นมงคล ต่างๆ ขึ้นมากมาย ความเชื่อเช่นนี้ไม่ใช่มีอยู่เฉพาะในประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่มีอยู่กันทั่วโลก
                พระพุทธองค์ เมื่อจะทรงพยายามชักนำความเชื่อดังกล่าวให้เข้ามาสู่ทางแห่งเหตุผลมากที่สุด เกิดประโยชน์แก่มนุษย์มากที่สุด จึงทรงเปรียบเทียบวันและคืนว่าจะดีหรือไม่ดีย่อมขึ้นอยู่กับลักษณะความประพฤติของคน ดังปรากฏในฉักกนิบาต อังคุตตรนิกายว่า “ใครก็ตามที่มีลักษณะ ๖ ประการนี้ วันและคืนของผู้นั้นย่อมมีแต่ความมืด เสื่อมจากความดีทั้งหลาย หาความจริงมิได้” ลักษณะ ๖ ประการนั้น คือ
                ๑.เป็นคนมีความต้องการมากจนเป็นทุกข์เดือดร้อน เพราะไม่รู้จักพอในเรื่องปัจจัยสี่
                ๒.เป็นคนไม่ศรัทธาในศาสนา คือขาดที่ยึดเหนี่ยวทางใจ ไม่รู้จักทางที่จะพัฒนาตัวเองให้ประณีตขึ้น บริสุทธิ์ขึ้น
                ๓.เป็นคนทุศีล ประพฤติตรงข้ามกับหลักศีลธรรมอยู่เป็นอาจิณ
                ๔.เป็นคนเกียจคร้าน ไม่ขยัน มักเพ้อฝัน แต่ขาดการลงมือทำ
                ๕.เป็นคนมีสติฟั่นเฟือน ไม่ฝึกฝนอบรมจิตให้หนักแน่นมั่นคง
                ๖.เป็นคนเขลา ไม่พยายามพัฒนาปัญญาให้มองเห็นเหตุผลและความจริง
                หลักคำสอนนี้นอกจากจะชักนำความเชื่อเรื่องความดีร้ายของวันคืนให้เข้ามาสู่ทางแห่งเหตุผลมากที่สุด เกิดประโยชน์มากที่สุดแล้ว ยังเป็นความจริงมากที่สุดอีกด้วย และความจริงที่ประกอบด้วยเหตุผลเช่นนี้นี่แหละ ที่จะเป็นเครื่องมือให้มนุษย์ใช้แก้ปัญหาด้วยปัญญาได้อย่างยั่งยืนถาวรดีที่สุด
............................................