ทำใจให้เหมือนแผ่นดิน
การทำใจ โดยความหมายก็คือ
การปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งต่อจิตใจ ดังนั้น
คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าไม่จำเป็นต้องมีการปฏิบัติ แต่ในขั้นตอนการปฏิบัติ
อาจมีผู้สงสัยบ้างว่าเราควรทำใจของเราให้เป็นอย่างไร ซึ่งในเรื่องนี้ พระพุทธองค์ทรงแสดงวิธีทำใจไว้อย่างหนึ่งที่ทุกคนควรนำไปฝึกฝนก็คือ
การทำใจให้เหมือนแผ่นดิน โดยทรงยกคุณลักษณะของแผ่นดินไว้ ๕ ประการคือ
๑.แผ่นดินนั้นแม้ใครจะเอาของหอม
หรือของเหม็นก็ตามเททิ้งลงไป แผ่นดินก็วางเฉยเป็นปกติ
ข้อนี้ท่านสอนให้หัดทำใจวางเฉย ไม่ว่าใครจะติหรือชมอย่างไรก็ไม่ต้องหวั่นไหวสะทกสะท้าน
๒.แผ่นดินแม้จะไร้เครื่องประดับตกแต่ง
แต่แผ่นดินก็ทรงคุณค่านานัปการในตัวของมันเอง ข้อนี้ท่านสอนให้รักษาศีล
เพราะศีลเป็นคุณค่าพื้นฐานที่ทุกคนต้องมี เพราะจะทำให้เป็นมนุษย์สมบูรณ์
แม้ปราศจากค่าที่ใครๆ จะสถาปนาให้ก็ตาม
๓.แผ่นดินมีลักษณะแน่นหนา คงทน
ข้อนี้ท่านสอนว่า เมื่อมีความดีแล้วต้องรักษาไว้ให้ดี มั่นคง ยืนหยัดในความดีนั้น
ไม่หวั่นไหว
๔.แผ่นดินแม้ต้องรับน้ำหนักมากมายเพียงใด
ก็ไม่เคยย่อท้อ ข้อนี้ท่านสอนให้มีความบากบั่น ไม่ท้อแท้ แม้ต้องเผชิญปัญหาอุปสรรคต่างๆ
เมื่อยังไม่บรรลุผลสำเร็จก็ไม่ละความเพียรพยายามนั้น
๕.แผ่นดินไม่ยินดียินร้ายในเรื่องต่างๆ
ที่เกิดขึ้นบนแผ่นดิน ไม่ว่าน้ำจะท่วม พายุจะพัด ภูเขาไฟจะระเบิดก็ตามที
ในข้อนี้ท่านสอนไม่ให้ยึดติดกับสิ่งที่เกิดขึ้น จะสุขหรือทุกข์ จะรวยหรือจน
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องของการต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ไม่ใช่ยึดติดจนหาความสุขไม่ได้
การพัฒนาจิตใจให้รู้จักวางเฉย
มีศีล ยึดมั่นในความดี ไม่ท้อแท้ และรู้จักปล่อยวาง
แม้จะไม่ง่ายนักแต่ก็จำเป็นต้องทำ
เพราะจะเป็นการช่วยปรับสภาพจิตใจให้หนักแน่นเหมือนแผ่นดิน
ไม่ว่าชีวิตจะเผชิญกับสิ่งใด ก็จะไม่กวัดแกว่งรวนเร ไม่พินาศแตกสลายอย่างแน่นอน
............................................