รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา
ในอดีตกาล
พระโพธิสัตว์เกิดเป็นกวางอาศัยอยู่ในป่า มีบริวารมากมาย
วันหนึ่งกวางผู้เป็นน้องสาวพาลูกมาหาแล้วขอให้ช่วยสอนมายากวางหรือศิลปะในการดำเนินชีวิต
พระโพธิสัตว์รับปากน้องสาว
แล้วกำชับกวางผู้เป็นหลาน ให้มีความตั้งใจและขยันหมั่นเพียรในการเรียน
กวางผู้เป็นหลานปฏิบัติตามที่ลุงบอกทุกประการ เมื่อมีเวลาว่างแม้กวางตัวอื่นๆ
จะวิ่งเล่นซุกซนไปตามเรื่อง
แต่ตัวเองจะทบทวนบทเรียนและเอาใจใส่ต่อการเรียนอยู่ตลอดเวลา
วันหนึ่ง
กวางหนุ่มเที่ยวไปในป่าและติดกับดับของนายพราน กวางตัวอื่นๆ
ได้ยินเสียงก็ตกใจพากันวิ่งหนีเข้าป่าและไปบอกให้แม่ของกวางหนุ่มทราบ
นางกวางตกใจมากจึงรีบไปหาพี่ชายผู้เป็นครูสอนและอ้อนวอนให้ไปช่วยกวางหนุ่มผู้เป็นหลาน
พระโพธิสัตว์ปลอบน้องสาวไม่ให้ตกใจและเสียขวัญ
พร้อมทั้งยืนยันว่ากวางหนุ่มผู้เป็นศิษย์เป็นผู้ตั้งใจ ศึกษาเล่าเรียน
มีวิชาความรู้อยู่กับตัว จะต้องเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน
เรื่องก็เป็นจริงอย่างที่พระโพธิสัตว์ว่า
กวางหนุ่มได้ใช้อุบายแสร้งทำเหมือนตาย โดยนอนเหยียดเท้าทั้ง 4
ตะกุยดินและบริเวณรอบๆ ให้กระจุยกระจาย ปล่อยอุจจาระและปัสสาวะให้ไหลออกมาเลอะเทอะ
หัวฟุบ ลิ้นห้อย กลั้นลมหายใจให้ตัวพอง ตาเหลือก ขณะเดียวกันก็มีพวกแร้งกาบินมาแอบคอยทีอยู่ใกล้ๆ
เมื่อนายพรานมาถึงก็ลองใช้นิ้วดีดท้องกวางดู
คิดว่ากวางติดกับดังตั้งแต่เช้าจนขึ้นอืดเกือบจะเน่าแล้วจึงแก้เชือกออก
แล้วเดินไปเก็บใบไม้มาปูเพื่อเตรียมชำแหละ กวางหนุ่มสบโอกาสจึงรีบลุกขึ้นวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว
และเอาชีวิตรอดมาได้
ชากดเรื่องนี้ให้ข้อคิดว่า
ผู้ที่ขยันศึกษาเล่าเรียนด้วยความตั้งใจจนมีความรู้เชี่ยวชาญ
จะสามารถใช้วิชาและประสบการณ์เอาตัวรอดในยามคับขันได้
............................................