วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ยาขมหม้อใหญ่


                “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” คำกล่าวนี้เป็นการเปรียบเทียบว่าสิ่งที่เราไม่ชอบ เรามักจะรู้สึกว่าขมขื่นกลืนกินยาก แต่เมื่อกลืนเข้าไปแล้ว ที่ว่าขมนั้นจะเป็นยาแก้โรคได้ ในทางตรงกันข้ามสิ่งที่เราชอบเราจะรู้สึกว่าเอร็ดอร่อย เมื่อกลืนกินผ่านลำคอเข้าไปแล้วก็เท่านั้นเอง คือผ่านเลยไปทำให้รู้สึกว่าสบาย แต่หลังจากนั้นอาจจะมีโทษภัยติดตามมา เปรียบเสมือนการดำเนินชีวิตของบุคคลเรา ถ้าหากเราทำตัวตามสบายจนเกินไป ก็จะเกิดผลเสียไม่ได้อะไรเลย กาลเวลาก็ล่วงเลยไปเปล่าๆ จะแก่ก็แก่ไปดังมีคำกล่าวที่ว่า แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน นั่นเอง
                “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” สามารถนำมาใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี ในเบื้องต้นของชีวิต ถ้าบุคคลทำตัวสบาย มักง่าย เกียจคร้าน หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ในเบื้องปลายของชีวิตย่อมจะประสบความล้มเหลว ตรงกับ “หวานเป็นลม” แต่ถ้าในเบื้องต้นของชีวิต บุคคลมีความขยันหมั่นเพียร หนักเอาเบาสู้ บังคับฝืนใจตนเองให้กระทำหน้าที่การงาน ดุจฝืนใจตนเองดื่มยาขมหม้อใหญ่ ในเบื้องปลายชีวิตก็ย่อมจะประสบความสำเร็จเสมอ ตรงกับ “ขมเป็นยา”
                ดังนั้น บุคคลผู้อยากได้ดีมีความสำเร็จสมหวังในชีวิตและหน้าที่การงาน จึงควรฝืนใจดื่ม ยาขมหม้อใหญ่ ด้วยการทำอะไรให้ทำจริงๆ
                                หวานเป็นลม ขมเป็นยา ท่านว่าไว้ เตือนจิตให้ หวนคิด ปริศนา
                                ความเกียจคร้าน ในการกิจนานา                      ย่อมจะพา ให้ทนทุกข์ หมดสุขใจ
                                ความขยัน บากบั่น ในการกิจ                            ย่อมสัมฤทธิ์ ทุกสิ่งสรรพ์ ดังขานไข
                                ทำอะไร ให้ฟันฝ่า อย่าทิ้งไป                            ดุจยาขม หม้อใหญ่ ให้ดื่มกิน

....................................