ความรู้คู่คุณธรรม
บุคคลผู้มีความรู้คู่กับคุณธรรมนั้น
นับเป็นผู้ยังหมู่คณะให้งดงาม เป็นที่น่าปรารถนาของทุกคนใครๆ ก็ต้องการมีไว้
เพราะเมื่อมีบุคคลเช่นนี้มาร่วมงานด้วยแล้ว
มักจะนำชื่อเสียงและเกียรติคุณมาให้ทั้งเป็นมันสมอง เป็นสติปัญญาของหน่วยงาน
ทำให้หน่วยงานที่ตนสังกัดอยู่มีความแข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับของสังคมได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ได้ทรงชี้หลักในการพิจารณาบุคคลผู้ที่จะทำให้หมู่คณะเจริญงอกงามและรุ่งเรืองยิ่งๆ
ขึ้นไปว่า จะต้องมีหลักธรรมที่สำคัญเหล่านี้คือ ฉลาด แก้วกล้า
ได้ศึกษาเล่าเรียนมาก มีคุณธรรมนำชีวิต และประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม (ฉลาด
แกล้วกล้า ศึกษาแตกฉาน การทรงธรรมและนำปฏิบัติ)
คุณลักษณะดังกล่าว
ยืนยันได้ถึงสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในสังคมปัจจุบัน
นั่นคือความรู้ต้องคู่กับคุณธรรมเสมอ เพราะเป็นสิ่งจำเป็น
มีความฉลาดแต่ขาดความเฉลียว มีความเก่งแต่ขาดความกล้า
ศึกษาเล่าเรียนมาแต่ไม่ทรงธรรมนำปฏิบัติ
เมื่อขาดสิ่งเหล่านี้ก็ไม่สามารถทำให้หมู่คณะเจริญก้าวหน้าได้
คนที่มีความรู้แตกฉานแต่ขาดคุณธรรม อาจนำความรู้ไปใช้ในทางที่ผิด
ก่อโทษก่อความเสียหายได้ร้ายแรงยิ่งกว่าคนไม่รู้อะไรเสียอีก
ส่วนประกอบทุกส่วนจึงควรมีสมดุลกัน
ดังนั้น
บุคคลผู้ประกอบด้วยคุณธรรมดังกล่าวมา คือมีความรู้ด้วย มีคุณธรรมด้วย
ย่อมจะนำพาหมู่คณะให้เจริญงอกงาม สมดังที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้
“ความฉลาด
แกล้วกล้า เป็นสามารถ ต้ององอาจเรียนรู้
อยู่เสมอ
ทั้งทรงธรรม
คุณค่า อย่าเผอเรอ คงไม่เก้อ
สง่างาม นำสังคม”
....................................