กระจกเงา
เป็นแก้วชนิดหนึ่ง ทำเป็นแผ่น มีปรอทเคลือบด้านหลัง ให้ส่องดูหน้าตากิริยาท่าทาง
ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเครื่องแต่งกาย
ตามหน่วยงานมักมีกระจกเงามาติดไว้บริเวณบันได
พร้อมกับเขียนข้อความติดไว้ในทำนองให้สำรวจตัวเองในแต่ละวันว่าดีหรือยัง เช่น
“ท่านแต่งกายเรียบร้อยแล้วหรือยัง” เพื่อเป็นการเตือนสติให้กันและกันอย่างดี
ผู้ส่องกระจกจะได้สำรวจดูสิ่งที่ตัวเองบกพร่องและแก้ไขต่อไป
ข้อจำกัดของกระจกเงาอยู่ที่เราสามารถส่งดูตัวเองได้อย่างสะดวกเพียงด้านเดียวเท่านั้น
ยังมีกระจกอีกชนิดหนึ่ง
สามารถใช้ส่องดูตัวเราได้ทุกด้าน ทุกเวลา
และส่องให้เห็นถึงพฤติกรรมของเราที่แสดงออกมาได้อย่างชัดเจนและเหมือนจริงมากที่สุด
ในทางพระพุทธศาสนาเรียกกระจกเงานี้ว่า ทิศ๖ คือ
๑.กระจกด้านที่
๑ ส่องดูด้านบนในฐานะเป็นศาสนิกชน
สะท้อนภาพให้เห็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติต่อกันระหว่าง นักบวชกับคฤหัสถ์
กระจกด้านที่
๒ ส่องดูด้านหน้า สะท้อนภาพให้เห็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติต่อกันระหว่างบิดามารดาบุตร
กระจกด้านที่
๓
ส่องดูด้านขวาสะท้อนภาพให้เห็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติต่อกันระหว่างครูอาจารย์กับศิษย์
กระจกด้านที่
๔ ส่องดูดด้านหลัง สะท้อนภาพให้เห็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติต่อกันระหว่างสามีกับภรรยา
กระจกด้านที่
๕ ส่องดูด้านซ้าย สะท้อนภาพให้เห็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติต่อกันระหว่างมิตรสหาย
กระจกด้านที่
๖ ส่องดูด้านล่าง
สะท้อนภาพให้เห็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติต่อกันระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา
ส่องกระจกดูรูปร่างหน้าตาภายนอกก็นับว่าดีอยู่แล้วที่ได้เห็นบุคลิกอันแท้จริงของเรา
ยิ่งถ้าได้ส่องกระจกทั้งหกด้านบ่อยๆ ด้วยแล้ว ก็จะได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น
เพราะจะช่วยสะท้อนภาพของเราให้เห็นพฤติกรรมเด่นชัดว่า
“เราทำหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้วหรือยัง”
....................................