เมื่อเอ่ยคำว่า โลกนี้มีแรงดึงดูด
ทุกคนคงมองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน นักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่า
การที่โลกหมุนรอบตัวเองอยู่ในชั้นบรรยากาศ
โดยที่สรรพสิ่งที่อาศัยอยู่บนโลกไม่หลุดลอยไปในห้วงอวกาศนั้น
เป็นเพราะโลกมีแรงดึงดูดอยู่ในตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นธรรมชาติ
ไม่มีใครสรรค์สร้าง
ถึงแม้สิ่งที่โลกดึงดูดเอาไว้นั้นจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีหรือเป็นอัปมงคลก็ตาม
จัดเป็นสิ่งที่ต้องอยู่คู่กันไปตลอดชั่วฟ้าดินสลาย ไม่สามารถที่จะสลัดทิ้งได้
ชีวิตคนเราก็เช่นเดียวกัน
ย่อมจะมีแรงดึงดูดในตัวเองมากน้อยแตกต่างกันไป แต่สิ่งสำคัญอยู่ตรงที่ว่า
ใครจะเลือกดึงดูดเอาความดีหรือความชั่วเข้ามาสู่ชีวิต
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพจิตของแต่ละคนซึ่งได้รับการฝึกฝนมากน้อยเพียรไร
สิ่งที่เป็นเหมือนแรงดึงดูดในทางพระพุทธศาสนา คือ ความดี ๔ ประการ ได้แก่
๑. ความรู้ดี คือ รอบรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์และมิใช่ประโยชน์โดยการศึกษาจากแหล่งความรู้ต่างๆ
๒.
ความสามารถดี คือ
สามารถนำความรู้ที่มีอยู่มาแก้ปัญหาในชีวิตได้จนเป็นที่ยอมรับจากคนทั่วไป
๓.
ความประพฤติดี คือ ควบคุมพฤติกรรมที่แสดงออกทางกาย วาจา ใจ
ไม่ให้เป็นไปในทางก่อความเสียหายแก่ผู้อื่น รวมทั้งมีความอ่อนน้อมถ่อมตน
เข้ากับคนอื่นได้ง่าย
๔.
บุญวาสนาดี คือ ได้เคยสั่งสมความดีไว้ในอดีตและทำต่อเนื่องกันไม่ขาดสาย
ความดีทั้ง
๔ ประการนี้ เป็นเหมือนแรงดึงดูด หากมีพร้อมอยู่ในผู้ใด ย่อมทำให้ผู้นั้น
สามารถดึงดูดผูกมัดและเหนี่ยวรั้งจิตใจผู้อื่นได้ ในทางตรงข้าม
หากปราศจากความดีข้างต้น แรงดึงดูดในตัวเองก็จะลดลงและไม่เป็นที่ปรารถนาของผู้อื่น
ในสังคมปัจจุบันยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่พยายามดึงดูดสิ่งที่เป็นโทษแก่ชีวิตไว้โดยไม่รู้ตัว
เช่น ยาเสพติดและอบายมุขต่างๆ ทั้งๆ ที่สามารถสลัดทิ้งสิ่งที่เป็นโทษเหล่านั้นได้
ลองถามตัวเองสักนิดว่า
แรงดึงดูดคือความดีในตัวเองมีมากแค่ไหน
และกำลังดึงดูดสิ่งที่เป็นโทษหรือเป็นประโยชน์แก่ชีวิต
.........................................