ดังได้บรรยายหลักแห่งพระพุทธศาสนาโดยลำดับๆ ว่าพุทธศาสนาคือวิชาและระเบียบปฏิบัติ เพื่อให้รู้จักสิ่งทั้งปวงถูกต้องตามที่เป็นจริงว่า อะไรเป็นอะไร สิ่งทั้งปวงมีสภาพตามที่เป็นจริง คือไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวหรือของตัว แต่สัตว์ทั้งหลาย ยังหลงรัก หลงยึดติดสิ่งทั้งปวง เพราะอำนาจของความยึดมั่นที่ผิด ในพุธศาสนามีวิธีปฏิบัติเรียกว่า ศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือตัดความยึดมั่นถือมั่นนั้นเสีย อุปาทานความยึดมั่นนั้นมีสิ่งที่ลงเกาะหรือจับยึด คือขันธ์ทั้งห้า ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
๓๒๖
เมื่อรู้จักขันธ์ทั้งห้าตามที่เป็นจริง ก็จะสามารถเข้าใจสิ่งทั้งปวงจนถึงกับเบื่อหน่าย คลายความอยากไม่ยึดอะไร ติดอะไร และเราควรจะมีชีวิตอยู่อย่างที่เรียกว่า “เป็นอยู่ชอบ” คือให้วันคืนเต็มไปด้วยความปีติปราโมทย์ อันเกิดจากกรกระทำที่ดีงาม ที่ถูกต้องอยู่เป็นประจำ แล้วระงับความฟุ้งซ่าน เกิดสมาธิ เกิดความเห็นแจ้งได้เรื่อยๆ ไป จนกระทั่งเกิดความเบื่อหน่าย คลายความอยาก ความหลุดพ้นและนิพพานได้ ตามความเหมาะสมของสิ่งแวดล้อม
๓๒๗
ถ้าเราจะรีบเร่งทำให้ได้ผลเร็วขึ้น ก็มีแนวปฏิบัติที่เรียกว่า วิปัสสนาธุระ เริ่มตั้งแต่มีความประพฤติบริสุทธิ์ มีใจบริสุทธิ์ มีความเห็นบริสุทธิ์ เรื่อยขึ้นไปจนถึงมีปัญญา คือความเห็นแจ้งบริสุทธิ์ ในที่สุดก็จะตัดกิเลสที่ถูกมัดคนให้ติดอยู่กับวิสัยโลกออกเสียได้ เรียกว่าการบรรลุมรรคผล
๓๒๘
ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นการแสดงให้เห็นแนวสังเขปทั้งหมดของพระพุทธศาสนา ตั้งแต่ต้นจนปลาย ให้เห็นว่าหลักพุทธศาสนามีอยู่อย่างไร พร้อมกับแสดงหลักปฏิบัติไปในตัว
๓๒๙
เป็นอันว่า เราได้ติดตามเรื่องมาตั้งแต่ต้นจนถึงผลสุดท้ายของพระพุทธศาสนา เรื่องทั้งหมดก็ไปจบสิ้นลงที่นิพพาน ดังหลักพุทธภาษิตที่ว่า “พระพุทธเจ้าทุกๆ องค์ย่อมถือว่านิพพานเป็นอุดมธรรม” ฉะนั้นเราจักต้องศึกษาให้รู้ให้เข้าใจ และให้ลุถึงได้ตามสมควร จึงจะได้ชื่อว่าเป็นพุทธบริษัท คือเห็นแจ้งหรือเข้าถึงตัวพุทธศาสนาจริงๆ มิฉะนั้นแล้วจะเป็นแต่ผู้รู้ หรือผู้เข้าใจในพุทธศาสนาเท่านั้น หาได้เป็นผู้เห็นแจ้งไม่
๓๓๐
ฉะนั้น ทุกคนจะต้องไปพิจารณาดูกิเลสของตัวเองให้เข้าใจ แล้วพยายามไถ่ถอนมันออกไปเสียให้ได้ แม้ได้แต่เพียงครึ่งหนึ่งก็จะเกิดความรู้แจ้งขึ้นมาบ้าง เมื่อกิเลสครึ่งหนึ่งมันหมดไปแล้วจริงๆ ผลก็คือเกิดความสะอาดปราศจากความชั่ว เกิดความสว่างจากความหลงผิด แล้วความสงบทางจิตใจก็เกิดขึ้นแทน จึงขอแนะนำพร้อมทั้งวิงวอนให้ท่านทั้งหลาย ศึกษาพระพุทธศาสนา กันในอาการเช่นนี้เพื่อจะได้เข้าถึงพระพุทธศาสนาอย่างแท้จิรงไม่เสียชาติที่เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา หรืออย่างน้อยก็ทำให้เราได้ความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์
๓๓๑
- จบ -