วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อุปสรรคบนหนทางของมนุษย์

ตั้งแต่สมัยโบราณกาลอันไกลโพ้นมาแล้ว มีราชาอยู่องค์หนึ่ง ปรารถนาจะออกไปสำรวจทุกข์สุขของประชาราษฎร์ พระองค์จึงปลอมตัวไปอาศัยปะปนอยู่กับชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งมีถนนสำหรับใช้สัญจรของชาวบ้าน สายหนึ่งเป็นถนนสายสำคัญของหมู่บ้าน
อยู่มาวันหนึ่งก็มีก้อนหินขนาดใหญ่มาทับขวางกลางถนน ราชาซึ่งซ่อนตัวปะปนอยู่กับชาวบ้านอยากรู้ว่าราษฎรจะมีปฏิกิริยาต่อปัญหานี้อย่างไร เท่าที่ได้ยินเสียงชาวบ้านกล่าวถึงเจ้าก้อนหินก้อนนี้ ส่วนใหญ่วิพากษ์วิจารณ์ในทำนองว่าเป็นความผิดของราชาที่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่ยอมสั่งการให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ถนนเส้นนี้ทั้ง ๆ ที่ใคร ๆ ก็ต้องใช้ถนนนี้กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ได้ยินเสียงบ่นจนหนาหู แต่ไม่ยักมีผู้ใดทำอะไรกับหินก้อนนี้เลย จนกระทั้ง มีชาวนาอยู่คนหนึ่งนั่งเกวียนผ่านมายังเส้นทางดังกล่าว และไม่สามารถนำเกวียนผ่านช่องทางที่หินทับอยู่ได้ ชาวนาไม่รู้จะทำอย่างไร เลยจัดแจงงัดก้อนหิน ไปให้พ้นทางหวังเพียงแค่ต้องการจะนำเกวียนให้ผ่านทางไปได้เท่านั้น แต่งัดไปงัดมาและใช้เวลานานมากพอดูด้วยความพยามของชาวนา ก้อนหินนั้นก็สามารถย้ายออกจากกลางถนนเคลื่อนไปอยู่ข้างทาง และสิ่งที่ชาวนาไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ชาวนาได้พบกับทองคำมากมายใต้ก้อนหินนั้นพร้อมกับจดหมายของพระราชา ขอมอบทองคำเหล่านี้ให้กับผู้ที่ย้ายก้อนหินออกจากถนน...
ชาวนาผู้นี้ได้เรียนรู้ว่า ในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยตระหนักว่า
“ในทุก ๆ อุปสรรคนั้น ถ้ามองอีกด้านหนึ่งจะเห็นโอกาสที่เปิดทางให้คนเราได้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่มนุษย์มักเพิกเฉย หรือไม่ก็พ่ายต่ออุปสรรค ทั้งที่ยังไม่ได้พยายามทำอะไรเลยสักนิด....."