วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2562

ขี้เหร่ก็รัก


 ขี้เหร่ก็รัก
                ความรักย่อมเป็นที่มาของความเห็นใจ ความช่วยเหลือ เสียสละ ให้อภัย และอื่นๆ อีกสารพัด ที่จะนิยามกันมา การเป็นที่รักของผู้อื่นจึงเป็นที่ปรารถนาของทุกคน ทำให้มีการเสริมแต่งร่างกาย ผิวพรรณ และแสวงหาเครื่องประดับเพื่อเสริมความงามกันอย่างเอาจริงเอาจัง จนกลายเป็นธุรกิจระดับโลก แต่วิธีทำให้คนอื่นรักที่ได้ผลที่สุดก็คือทำตัวเองนั่นแหละให้น่ารัก ซึ่งสามารถลงมือปฏิบัติได้เอง ดังเช่นตัวอย่างต่อไปนี้
                ๑.ไหว้ผู้อื่น เพราะการไหว้หรือรับไหว้คือการเผยให้เห็นความรู้สึกที่ดีที่มีให้ผู้อื่น เป็นการสร้างเสน่ห์ตั้งแต่แรกพบ
                ๒.ขอโทษและขอบคุณ คำว่าขอโทษ ก็คือการยอมรับว่าตนเป็นฝ่ายผิด คำว่าขอบคุณก็คือการมองเห็นน้ำใจของเขา ทั้งสองคำนี้ไพเราะสำหรับผู้ฟัง เป็นวิธีหยิบยื่นความพึงพอใจให้ผู้อื่นที่ง่ายที่สุด
                ๓.ไม่เก่งคนเดียว รู้จักยกย่องความสามารถของผู้อื่น และรู้จักถ่อมตัว ในโอกาสที่เหมาะสม
                ๔.มีอารมณ์ขัน เพราะอารมณ์ขันที่ถูกกาลเทศะ จะช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย ความตึงเครียดของผู้อื่น อย่างน้อยที่สุด ก็ทำให้มองโลกในแง่ดีขึ้น มีอารมณ์แจ่มใสขึ้น ไม่แจกจ่ายความเครียดให้คนรอบข้าง
                ๕.เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ เพราะผู้ให้ย่อมเป็นที่รักเสมอ สำหรับการให้โดยจริงใจและบริสุทธิ์ไม่หวังผล
                ในแง่ที่จะทำให้คนอื่นรัก ถ้าจะพูดว่าคนสวยที่สุด กับคนขี้เหร่ที่สุด มีต้นทุนเท่ากัน ก็คงไม่ผิดเพราะสุดท้ายจะต้องตัดสินกันที่ความน่ารัก และความน่ารักที่แท้จริงนั้นก็เป็นคุณสมบัติ ไม่ใช่รูปสมบัติ คุณสมบัตินั้นเป็นเสน่ห์ตัวจริง ศักดิ์สิทธิ์ชนิดไม่มีอะไรทำลายล้างได้ มีอยู่ในคนขี้เหร่ที่สุด ก็ทำให้เป็นคนที่น่ารักที่สุดได้ คนทั้งหลายจะนิยมชมชอบเขาโดยไม่นึกรังเกียจในความขี้เหร่เลย
............................................