น้ำขึ้น-น้ำลง
น้ำขึ้น-น้ำลง เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
เกิดจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ที่กระทำต่อส่วนต่างๆ ของโลก
ที่เป็นทะเลหรือมหาสมุทร เนื่องจากดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกมากกว่าดวงอาทิตย์
ดวงจันทร์จึงมีอิทธิพลต่อ น้ำขึ้น-น้ำลง มากกว่าดวงอาทิตย์
ในบางช่วงเมื่อดวงจันทร์โคจรรอบโลกมาอยู่ในแนวเดียวกับดวงอาทิตย์
แรงดึงดูดจะเสริมกัน ทำให้น้ำขึ้น-น้ำลงมีระดับสูงหรือมาก
และในบางช่วงเมื่อดวงจันทร์โคจรรอบโลกมาอยู่ในแนวฉากกับดวงอาทิตย์แรงดึงดูดจะแยกกัน
ทำให้น้ำขึ้น-น้ำลงมีระดับต่ำมาก
น้ำขึ้น-น้ำลง แม้จะเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
แต่อาจเปรียบได้กับชีวิตของคนเราได้เช่นกัน กล่าวคือ ในบางช่วงของชีวิต
ได้พบแต่ความสุขสบาย มีโชคลาภ มีเงินทองมากมาย
มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป มีคนยกย่องสรรเสริญ
แต่ในบางช่วงก็พบแต่ความทุกข์ ความสับสนวุ่นวาย ความเดือดร้อนไม่สิ้นสุด
เงินทองไม่พอใช้จ่าย ซ้ำยังมีหนี้สินเพิ่มขึ้น ชื่อเสียงก็มัวหมอง
อีกทั้งคนทั้งหลายก็คอยตำหนินินทา
ในทางพระพุทธศาสนาได้สอนว่า
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตเหล่านั้น เป็นความจริงของโลก
หรือเป็นของคู่กับโลกที่ทุกคนเมื่อเกิดมาแล้วต้องประสบ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ต้องการหรือไม่ก็ตาม
ไม่มีใครหนีพ้นไปได้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ให้พิจารณารู้เท่าทันความเป็นจริงว่า
สิ่งเหล่านั้นไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอน มีความแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา
ควรมีสติสัมปชัญญะให้มั่นคง ไม่หลงระเริงหรือมัวเมา เมื่อมีโชคลาภหรือมีชื่อเสียง
และไม่เสียใจ ไม่แสดงอาการหดหู่หรือทุกข์ระทม เมื่อต้องพบกับเคราะห์กรรม
ให้คิดเสียว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ต่างอะไรกับน้ำที่มีขึ้นมีลง
หากพิจารณาได้เช่นนี้ก็จะทำให้พบกับความสบายใจ ไม่เดือดร้อนใจ ทุกข์ใจ
แม้สิ่งที่เกิดขึ้นแก่ตนหรือที่ตนพบเจอนั้น จะไม่น่าปรารถนาเลยก็ตาม
............................................