วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2561

น้ำขึ้น-น้ำลง


น้ำขึ้น-น้ำลง
                   น้ำขึ้น-น้ำลง เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เกิดจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ที่กระทำต่อส่วนต่างๆ ของโลก ที่เป็นทะเลหรือมหาสมุทร เนื่องจากดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกมากกว่าดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์จึงมีอิทธิพลต่อ น้ำขึ้น-น้ำลง มากกว่าดวงอาทิตย์ ในบางช่วงเมื่อดวงจันทร์โคจรรอบโลกมาอยู่ในแนวเดียวกับดวงอาทิตย์ แรงดึงดูดจะเสริมกัน ทำให้น้ำขึ้น-น้ำลงมีระดับสูงหรือมาก และในบางช่วงเมื่อดวงจันทร์โคจรรอบโลกมาอยู่ในแนวฉากกับดวงอาทิตย์แรงดึงดูดจะแยกกัน ทำให้น้ำขึ้น-น้ำลงมีระดับต่ำมาก
                น้ำขึ้น-น้ำลง แม้จะเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่อาจเปรียบได้กับชีวิตของคนเราได้เช่นกัน กล่าวคือ ในบางช่วงของชีวิต ได้พบแต่ความสุขสบาย มีโชคลาภ มีเงินทองมากมาย มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป มีคนยกย่องสรรเสริญ แต่ในบางช่วงก็พบแต่ความทุกข์ ความสับสนวุ่นวาย ความเดือดร้อนไม่สิ้นสุด เงินทองไม่พอใช้จ่าย ซ้ำยังมีหนี้สินเพิ่มขึ้น ชื่อเสียงก็มัวหมอง อีกทั้งคนทั้งหลายก็คอยตำหนินินทา
                ในทางพระพุทธศาสนาได้สอนว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตเหล่านั้น เป็นความจริงของโลก หรือเป็นของคู่กับโลกที่ทุกคนเมื่อเกิดมาแล้วต้องประสบ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ต้องการหรือไม่ก็ตาม ไม่มีใครหนีพ้นไปได้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ให้พิจารณารู้เท่าทันความเป็นจริงว่า สิ่งเหล่านั้นไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอน มีความแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา ควรมีสติสัมปชัญญะให้มั่นคง ไม่หลงระเริงหรือมัวเมา เมื่อมีโชคลาภหรือมีชื่อเสียง และไม่เสียใจ ไม่แสดงอาการหดหู่หรือทุกข์ระทม เมื่อต้องพบกับเคราะห์กรรม ให้คิดเสียว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ต่างอะไรกับน้ำที่มีขึ้นมีลง หากพิจารณาได้เช่นนี้ก็จะทำให้พบกับความสบายใจ ไม่เดือดร้อนใจ ทุกข์ใจ แม้สิ่งที่เกิดขึ้นแก่ตนหรือที่ตนพบเจอนั้น จะไม่น่าปรารถนาเลยก็ตาม
............................................