ของใช้จำเป็นอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อเปลี่ยนศักราชใหม่ก็คือ
ปฏิทิน เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิบัติงาน
การนัดหมายและการปฏิบัติภารกิจอื่นๆ คำว่า “ปฏิทิน” แปลตามตัวว่า เฉพาะวัน
หรือสำหรับวัน แปลโดยความหมายว่า แบบสำหรับดูวันเดือนปี
แต่ถ้าจะให้ปีใหม่มีความหมายเพิ่มขึ้นเป็นจุดเริ่มของชีวิตที่ดีขึ้น
จะต้องมีแบบไว้เป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับชีวิตประจำวัน
เพื่อให้เกิดความสุขความเจริญรุ่งเรือง ในด้านสังคม พระพุทธเจ้าทรงวางแบบสำหรับการดำเนินชีวิตที่ดีไว้
๔ แบบ คือ
๑.แบบของการเสียสละ
ที่เรียกว่า ทาน คือการให้ รู้จักเอื้อเฟื้อแบ่งปัน ทั้งวัตถุข้าวของความสะดวกสบาย
เพื่อสงเคราะห์ยึดเหนี่ยวน้ำใจกันบ้าง เพื่อขัดเกลาและยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น
๒.แบบของการพูด
ท่านสอนให้พูดด้วยปิยวาจา คือพูดสุภาพไพเราะ มีความจริงใจไม่เสแสร้งพูดแล้วเกิดความสบายใจทั้งผู้พูดและผู้ฟัง
๓.แบบของการบำเพ็ญประโยชน์
ได้แก่หลัก อัตถจริยา
รู้จักอุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวมบางครั้งแม้จะต้องเสียเวลาสำหรับประโยชน์ตนไปบ้าง
แต่ก็จำเป็นเพราะตนเองจะได้ประโยชน์หรือเป็นคนมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อรู้จักสละประโยชน์ของตนเอง
๔.แบบของการวางตัว
ได้แก่หลัก สมานัตตตา วางตัวให้เหมาะสมกับฐานะของตน
ไม่ก้าวก่ายขัดแย้งหรือผิดต่อกาลเทศะ
แบบสำหรับดูวันเดือนปีหรือปฏิทินประจำปีที่มีอยู่
จะบอกได้เพียงวันเวลา แต่วันเวลาที่เรารู้แล้วนั้น
จะดีหรือเลวและนำพาชีวิตให้เป็นอย่างไร ย่อมขึ้นอยู่กับแบบสำหรับดำเนินชีวิตอีกทีหนึ่ง
ทุกคนจึงควรมีปฏิทินประจำชีวิตคือแบบแผนที่ดีงาม
ไว้เป็นเครื่องกำกับตรวจสอบตัวเองเสมอ อย่างน้อยก็ สี่แบบดังกล่าว
............................................