โอวาทสำหรับคู่สมรส
พิธีมงคลสมรสนับว่าเป็นพิธีที่มีความหมายและสำคัญยิ่งของคู่สมรส
นับแต่วันสมรสนี้ไปคู่สมรสส่วนมากก็ต้องแยกออกจากความปกครองและอ้อมกอดของบิดามารดาไปสร้างครอบครัวใหม่
มีอิสระในการดำเนินชีวิต เป็นก้าวแรกที่จะต้องต่อสู้กับปัญหาชีวิตทุกด้าน
คู่สมรสก็ต้องเป็นเพื่อนคู่คิดในการแก้ปัญหานั้นๆ ให้กันและกัน
ในพิธีจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสจึงนิยมเชิญผู้ใหญ่ที่เป็นประธานในพิธี
กล่าวอวยพรและให้โอวาท เพื่อทั้งคู่จะได้ยึดถือเป็นแนวทางในการครองรักครองเรือน
และเพื่อความเป็นสิริมงคล เข้าทำนองว่า “อยากรู้ทางข้างหน้า ต้องถามคนเคยเดิน”
ธรรมะหมวดหนึ่งที่เป็นโอวาทสำหรับคู่สมรสคือ
ฆราวาสธรรม มีด้วยกัน ๔ ข้อคือ
๑.สัจจะ ความจริงใจต่อกัน
ปฏิบัติต่อกันอย่างซื่อตรงทั้งคำพูดและการกระทำ
๒.ทมะ ฝึกฝน
ปรับแก้พฤติกรรมและบุคลิกภาพของแต่ละฝ่ายให้เข้ากันได้ เพราะทุกคนย่อมมีข้อบกพร่อง
หรือจุดเสียอยู่ในตัวเอง
ถ้าไม่ปรับปรุงแก้ไขนานเข้าก็จะเป็นอุปสรรคต่อการอยู่ร่วมกัน
๓.ขันติ อดทน ความอดทนนี้เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้
เพราะความเหน็ดเหนื่อย ความโกรธ ความทุกข์ใจที่เกิดในชีวิตนั้นไม่ยั่งยืนถาวร
เดี๋ยวเกิดเดี๋ยวดับ เดี๋ยวมีเดี๋ยวหาย ถ้าเกิดขึ้นแล้วอดทนไว้ได้ช่วงหนึ่ง
ไม่ช้าก็จะบรรเทาเบาบางไปได้ แต่ถ้าไม่มีความอดทนมาแทรกไว้เสียก่อน
ทุกอย่างอาจพินาศลง
๔.จาคะ รู้จักการสละละวาง
ทั้งในแง่สละวัตถุสิ่งของ เพื่อการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน และสละอารมณ์ ความคิด
ที่ทำให้จิตใจเป็นทุกข์ เจ็บแค้น เศร้าหมอง ฯ
คำว่า “ลิ้นกับฟัน”
เป็นคำอุปมาที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตคู่ เพราะทำให้เห็นภาพได้เองโดยไม่ต้องอธิบาย
ฆราวาสธรรม จึงเป็นธรรมะที่เหมาะที่สุดสำหรับชีวิตคู่
ผู้มีโอกาสกล่าวอวยพรแก่คู่สมรส หรือแม้แต่ผู้ที่ครองชีวิตคู้อยู่แล้ว
ควรสนใจธรรมะข้อนี้ให้มาก เพราะเป็นจุดตัดสินความสำเร็จหรือล้มเหลวในชีวิตคู่ ได้แน่นอน
คนใดครองคฤหาสน์ด้วย ศรัทธา
สัตย์หนึ่งฝึกอาตมา หนึ่งไซร้
ฯลฯ
............................................