วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2559

วัฒนธรรมมือถือ


                ปัจจุบัน การสื่อสารมีความก้าวล้ำทันสมัยกว่าแต่ก่อนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทรศัพท์มือถือ ทำให้การติดต่อสื่อสารระหว่างกันง่ายขึ้น สะดวดรวดเร็วทันใจ ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลใดก็สามารถติดต่อกันได้ฉับไว หากใครไม่มีโทรศัพท์มือถือก็อาจจะถูกกล่าวหาว่าล้าหลังไม่ทันสมัย
                คำกล่าวที่ว่าทุกอย่างเมื่อมีคุณก็ต้องมีโทษนั้น ยังคงเป็นความจริงอยู่เสมอ เช่นเดียวกับโทรศัพท์มือถือหากมองอีกด้านหนึ่งจะเห็นว่ามีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของคนเราไม่น้อย ดั่งเช่น
                ๑.คนใช้อารมณ์ความรู้สึกกันมากขึ้นและใช้ความคิดน้อยลง ซึ่งแต่ก่อนนั้นการจะตกลงรับปากกับใครในเรื่องอะไรก็ตาม มักมีเวลาไตร่ตรองผัดผ่อนหรือมีทางเลือก แต่ในยุคโทรศัพท์มือถือนี้ดูเหมือนจะไม่เปิดโอกาสให้มีเวลาในการไตร่ตรองปัญหาเหมือนก่อน ต้องคิดไว ทำไว ซึ่งมักมีข้อผิดพลาดได้มากตามมา
                ๒.มีเวลาเป็นของตัวเองน้อยลง แต่ก่อนโทรศัพท์อยู่ที่บ้านกว่าจะได้ใช้ก็ต่อเมื่ออยู่บ้านเท่านั้น มีเวลาส่วนตัวมาก ปัจจุบันเมื่อมีโทรศัพท์มือถือระบาด สามารถใช้ได้ทุกเวลา จึงเหลือเวลาที่เป็นส่วนตัวน้อยลง และบางครั้งการพูดคุยกันทางโทรศัพท์มือถือก็ไม่ค่อยได้สาระเท่าไรนัก โทรถึงคนโน้น จบแล้วก็โทรถึงคนนี้ต่อ ดูวุ่นวายเป็นบันเทิงอารมณ์มากกว่าจะประเทืองปัญญา
                ๔.เป็นช่องทางให้เกิดโจรกรรม เนื่องจากโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่มีความทันสมัยมากขึ้น เช่น ใช้เป็นกล้องถ่ายรูป หรือดูโทรทัศน์ได้ และมีราคาสูง จึงเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจให้โจรในคราบต่างๆ หาช่องทางช่วงชิงหรือปล้น มาเป็นของตนเอง แม้บางครั้งเป็นแค่เพียงอารมชั่ววูบก็ยังมีให้เห็นเป็นข่าวอยู่เสมอๆ
                โทรศัพท์มือถือแม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่ขณะเดียวกันก็พึงสังวรถึงผลเสียหายต่างๆ ที่จะตามมา ที่สำคัญคือต้องรู้จักใช้ ไม่เช่นนั้นก็จะก่อให้เกิดความเสียหายได้ไม่จบสิ้น ดังคำที่ว่า “ใช้สิ่งใดไม่เป็น ก็จะเป็นทาสของสิ่งๆ นั้นนั่นเอง”

....................................