เป็นความจริงที่ว่าทุกคนย่อมปรารถนาความสุข
เกลียดทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น และอยากจะมีความสุขยิ่งๆ
ขึ้นไปจึงพยายามขวนขวายแสวงหาความสุขด้วยวิธีการต่างๆ
ตามที่ตนคิดว่าจะได้รับความสุขสมปรารถนา แต่ตามข้อเท็จจริงปรากฏว่า
คนจำนวนมากในโลกนี้ได้รับความสุขอย่างขาดตกบกพร่อง
บ้างก็ร้องไห้คร่ำครวญอยู่บนกองเงินกองทอง
บ้างก็นั่งระทมทุกข์เพราะความยากจนข้นแค้น จึงเห็นได้ว่า
ทรัพย์สินเงินทองอย่างเดียวไม่อาจเป็นหลักประกันได้ว่าจะให้ความสุขที่สมบูรณ์แบบได้
ในสมัยโบราณมีผู้สอนอุบายเพื่อสร้างเสริมความสุขด้านจิตใจให้เกิดมีอยู่เสมอ คือได้แนะกลวิธีเอาชนะทุกข์และสร้างสุขให้แก่ชีวิต
ว่าอยู่ที่การรู้จักใส่ใจ เข้าใจ และทำใจโดยรู้จักยอมรับในความเป็นจริง
และความเป็นไปของชีวิต ตลอดถึงรู้จักแบ่งปัน เสียสละ เพื่อสร้างสรรค์สังคม
ด้วยอุบาย ๕ ประการ คือ
๑.รู้จักพอ
คือรู้จักพอใจ พอได้ พอมี พอดี พอเพียง ไม่โลภ ไม่ริษยา
๒.รู้จักให้
คือรู้จักเสียสละ แบ่งปัน ไม่ตระหนี่ถี่เหนียว
๓.รู้จักทำใจ
คือ มีการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ ไม่ประมาท
พร้อมที่จะยอมรับความจริงได้ในทุกสถานการณ์
๔.รู้จักปล่อยวาง
คือรู้ว่าอะไรที่ควรปลง ควรปล่อยวาง ก็ปลงก็วาง ไม่ยึดติด ถือมั่นจนเป็นทุกข์
๕.เห็นทุกอย่างเป็นธรรมดา
คือมีการฝึกฝนเรียนให้รู้ถึงความจริงของกฎธรรมชาติที่ว่า ทุกสิ่งมีได้ มีเสีย
มีชื่นชม มีขมขื่น มีเกิด มีดับ มีจากไป
หากทุกคนได้มีการเตรียมพร้อม
เรียนรู้ และฝึกฝนตอยู่อย่างนี้ ก็จะเชื่อว่า มีอุบายสำหรับสร้างความสุขใจ อยู่อย่างพร้อมมูล
อุบายทั้ง ๕ นี้
จะส่งเสริมความสุขให้เกิดขึ้นทั้งแก่ผู้มีทรัพย์สินเงินทองและผู้ที่ยากจนอย่างเสมอกัน
ลองหันมาฝึกตนให้เป็นคนรู้จักพอ รู้จักให้ รู้จักทำใจ รู้จักปล่อยวาง
และเห็นทุกอย่างเป็นธรรมดา กันเถิด
............................................