กบ
มีนิทานเล่าว่า
กบตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในสระน้ำในวัดแห่งหนึ่ง วันหนึ่งมันสังเกตดูกิจวัตรของพระสงฆ์
เห็นพระสงฆ์ออกไปบิณฑบาตและนำอาหารกลับมาฉันที่วัด
มันคิดว่าเป็นพระสงฆ์นี้สบายได้อาหารมาอย่างง่ายดาย ต่างกับตนที่ต้องดิ้นรนหาอาหาร
ซ้ำยังมีชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวงภัยตลอดเวลา จึงนึกอยากเป็นพระสงฆ์ ต่อมามันเห็นพระสงฆ์นำอาหารที่เหลือไปโปรยให้ไก่กิน
ก็อิจฉาไก่ที่ไม่ต้องลำบากออกหาอาหารกินเอง จึงนึกอยากเป็นไก่
แต่ขณะนั้นเองมีสุนัขตัวหนึ่งวิ่งไล่ไก่ที่กำลังคุ้ยเขี่ยจิกกินอาหารอย่างเพลิดเพลิน
มันจึงอยากเป็นสุนัข ต่อมาสุนัขก็ถูกชายคนหนึ่งใช้ไม้ไล่ตีมัน
มันจึงเปลี่ยนใจอยากเป็นคน
แต่สักครู่หนึ่งมันก็เห็นแมลงวันบินมาตอมชายคนนั้นจนเขารำคาญแล้วเดินหนีไป
จึงอยากเป็นแมลงวัน ในขณะที่กบกำลังนึกเคลิบเคลิ้มอยากเป็นนั่นเป็นนี่อยู่นั่นเอง
แมลงวันตัวหนึ่งก็บินมาจับตรงปลายจมูกของมันพอดี ด้วยความเคยชิน
มันจึงแลบลิ้นตวัดแมลงวันเข้าปาก พอรู้รสแมลงวันเท่านั้น
มันก็คิดได้ว่าเป็นอะไรก็ไม่ดีเท่ากับเป็นกบนั่นเอง
เรื่องนี้แม้จะเป็นเพียงนิทาน
แต่ก็ให้ข้อคิดว่า ตัณหาหรือความอยากนั้น เป็นไฟอย่างหนึ่งที่สามารถเผาไหม้จิตใจทั้งของมนุษย์และสัตว์ดิรัจฉาน
คอยบังคับบัญชาจิตใจให้อยากเป็นนั่นเป็นนี่อยู่ร่ำไป จนเกิดอาการกระสับกระส่าย
ฟุ้งซ่าน ทุรนทุราย ระทมทุกข์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
วิธีที่จะระงับหรือดับความอยากได้นั้น ก็คือต้องพยายามฝึกจิตให้ชื่นชมยินดีในภาวะของตน
จนดูตัวเองออก บอกตัวเองได้ ใช้ตัวเองเป็น และพอใจในสิ่งที่ตนมี ยินดีในสิ่งที่ตนได้
ทำเช่นนี้ได้ก็จะไม่ถูกไฟคือความอยากเผาไหม้อีกต่อไป
............................................