เกราะกันภัย
เกราะเป็นเครื่องสวมใส่หรือเครื่องหุ้มชนิดหนึ่ง
ใช้สำหรับป้องกันอาวุธหรือภัยอันตรายต่างๆ เช่น เสื้อเกราะ รถหุ้มเกราะ เป็นต้น
เกราะดังกล่าวเป็นเกราะทางโลก
ใช้สำหรับป้องกันภัยภายนอกซึ่งเกิดจากการกระทำของผู้อื่น แต่บางครั้งก็ไม่สามารถป้องกันได้หากมีอาวุธที่สามารถทำลายเกราะได้
หรือฝ่ายตรงข้ามมีขีดความสามารถที่ดีกว่า
ยังมีเกราะอีกชนิดหนึ่งในทางธรรมะ
เป็นเกราะทางธรรมใช้สำหรับป้องกันภัยภายใน คือภัยที่เกิดจากการกระทำของตนเอง
เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะทำลายทั้งผู้อื่นและตนเองให้เกิดความเสียหาย ได้แก่
ความโหดร้ายทารุณ เบียดเบียนทำร้ายผู้อื่นให้เดือดร้อนเป็นนิจ
ล่วงละเมิดสิทธิ์ด้วยการถือเอาทรัพย์สินผู้อื่นมาเป็นของตนประพฤติผิดทางกามในสามีภรรยาผู้อื่นด้วยอำนาจกิเลสราคะ
โกหกหลอกลวงผู้อื่นด้วยหวังให้เกิดความเสียหายและลุ่มหลงมัวเมาในสิ่งเสพติดให้โทษ
วิธีจะป้องกันภัยภายในดังกล่าวได้ ต้องป้องกันด้วยเกราะภายในคือ การรักษาศีล ๕ ข้อ
ได้แก่ ไม่เบียดเบียนฆ่าทำลายกัน โดยให้มีความเมตตากรุณาต่อกัน
ไม่ลักขโมยสิ่งของกันและกัน โดยให้มีความขยันประกอบสัมมาชีพ
ไม่ล่วงเกินสามีภรรยาของกันและกัน โดยให้มีความยินดีพอใจในคู่ครองของตน
ไม่พูดโกหกหลอกลวงกัน โดยให้พูดคำสัตย์จริงเหมาะสมเป็นที่น่าเชื่อถือ
และไม่เสพสิ่งเสพติดให้โทษ โดยให้มีสติครองตนอยู่เป็นนิจ
ผู้ที่รักษาศีล ๕ อยู่เสมอ
ย่อมเป็นเหมือนมีเกราะกันภัยให้แก่ตนเอง เพราะช่วยควบคุมวาจาของตนไม่ให้ประพฤติผิดศีลธรรมอันดีงาม
ไม่ต้องหวาดระแวงกลัวจะถูกนินทาว่าร้ายหรือถูกจับกุมลงโทษ
นอกจากนั้นยังช่วยให้สังคมมีความปลอดภัย อยู่ร่วมกันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข
จึงกล่าวได้ว่า ศีล ๕ เป็นเกราะกันภัยได้อย่างสำคัญ ดังคำพระที่กล่าว “สีลัง
กะวะจะมัพภุตัง” ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์ หากทุกคนในสังคมมีเกราะภายใน คือศีล ๕
แล้ว เกราะภายนอก เช่น เสื่อเกราะ ก็ไม่จำต้องใช้อีกต่อไป
............................................