วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

อภัยทาน


 อภัยทาน
                “อภัยทาน” ตามรูปศัพท์แปลว่า ให้ความไม่มีภัย หมายถึงการให้ทานด้วยการยกโทษให้อภัยทานนี้มีความสำคัญมาก เพราะเกี่ยวข้อกับชีวิตจริงของทุกคน เนื่องจากเมื่อมีการอยู่ร่วมกัน ปฏิบัติงานร่วมกัน ย่อมมีโอกาสขัดใจและขุ่นเคืองกันบ้างเป็นธรรมดา หากให้อภัยไม่ได้ก็จะทำให้จิตใจเร่าร้อน ขุ่นมัวไม่เป็นสุข อาจนำไปสู่ความขัดแย้งและแตกสามัคคีกันในที่สุด
                การจะให้อภัยผู้อื่นได้ เบื้องต้น จะต้องคิดว่าทุกคนย่อมผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น แม้การกระทำของเขาจะเป็นการจงใจหรือไม่ก็ตาม แต่ความจงใจนั้นก็คือความผิดพลาดในลักษณะหนึ่งที่เรียกว่าหลงผิด ถึงตัวเราเองก็จะต้องเคยทำผิดและได้รับอภัยจากผู้อื่นมาแล้วเช่นกัน คิดได้เช่นนี้ก็จะให้อภัยกันได้ง่ายขึ้น
                มีพุทธภาษิตเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ผู้ใดคอยผูกความโกรธไว้ว่า คนนี้ด่าเรา คนนี้ทำร้ายเรา คนนี้เอาชนะเรา คนนี้ลักขโมยทรัพย์สินของเรา เวรของผู้นั้นย่อมไม่สงบลงได้” และเมื่อเวรไม่สงบ ย่อมจะทำลายล้างกันนำไปสู่การจองเวรกันเป็นทอดๆ ไม่มีสิ้นสุด ซึ่งไม่เป็นผลดีแก่ฝ่ายใดเลย
                ที่สำคัญ เวรของผู้ใดไม่ระงับ เจ้าของเวรนั้นจะถูกเผาผลาญก่อน เขาจะรุ่มร้อน คั่งแค้น เป็นทุกข์ด้วยเวรที่ตนเองผูกไว้นั่นแหละ ทุกคนจึงควรรู้จักให้อภัย เพราะคำว่าอภัยทานนี้ แม้โดยชื่อจะแปลว่าการให้แต่ทันทีที่ให้ ก็จะกลับเป็นการได้ขึ้นมาทันที แรกสุดก็จะได้จิตใจที่เป็นสุขกลับคืนมาอย่างแน่นอน
............................................

เพื่อนแท้



                ในชีวิตของเรานี้ ยกเว้นบิดามารดา ครอบครัว และญาติพี่น้องเสียแล้ว เพื่อนเป็นบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของเรามากที่สุด การจะคบใครเป็นเพื่อน โดยทั่วไปก็ขึ้นอยู่กับความพอใจ ถูกใจ คนที่เสียคนเพราะเพื่อนก็มี ที่ได้ดีเพราะเพื่อนก็มาก การคบเพื่อนจึงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาให้ดี
                พระพุทธศาสนา แสดงเพื่อแท้ไว้ สี่ประการคือ
                ๑.เพื่อนมีอุปการะ คือเพื่อนที่ช่วยปกป้องเพื่อน ปกป้องทรัพย์ของเพื่อน เมื่อมีภัยเป็นที่พึ่งอาศัยได้และเมื่อมีความจำเป็นก็ช่วยเหลือเงินทองมากกว่าที่ออกปาก
                ๒.เพื่อนร่วมสุขร่วมทุกข์ คือเพื่อนที่เปิดเผยความลับกับเพื่อได้ เก็บความลับของเพื่อนไว้ได้ ไม่ทิ้งกันเมื่อเกิดอันตราย และถึงที่สุดก็สามารถตายแทนได้
                ๓.เพื่อนแนะประโยชน์ คือเพื่อนที่คอยห้ามเมื่อทำชั่ว สนับสนุนเมื่อทำดี ผลักดันให้แสวงหาความรู้ที่ก้าวหน้าขึ้นไป และแนะนำทางแห่งความสุขให้
                ๔.เพื่อนมีน้ำใจ คือเมื่อเราเดือดร้อนเพื่อนก็เดือดร้อนด้วย เมื่อมีสุขก็ดีใจด้วย เมื่อเขาตำหนิเพื่อนก็ช่วยชี้แจงแก้ไข เมื่อเขาสรรเสริญเพื่อนก็สนับสนุน
                ทุกคนย่อมมีความมุ่งหวังเฉพาะหน้าเหมือนกันอย่างหนึ่ง คือจะทำอย่างไรชีวิตของตัวเองจึงจะมีความสุข และแก้ปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นได้ ความมุ่งหวังนี้ทำให้คนส่วนหนึ่งสนใจแต่เรื่องของตัวเองถึงจะสนใจผู้อื่นอยู่บ้างก็สนใจในฐานะเป็นคู่แข่งที่ต้องช่วงชิงความได้เปรียบ แต่เพื่อนแท้จะไม่คิดอย่างนั้น เขาจะมีความจริงใจต่อเพื่อน เสียสละ ให้เพื่อนได้ ความเป็นเพื่อนแท้จึงเป็นสิ่งประเสริฐ นอกจากมีคุณค่าควรแก่การแสวงหาแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ควรมอบให้กับผู้อื่นอีกด้วย
............................................

การทำความเคารพ



                การทำความเคารพ เป็นธรรมเนียมอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดความเจริญแก่หมู่คณะ ในทางทหารถึงกับกำหนดให้เป็นวินัยที่ต้องปฏิบัติ แต่การทำความเคารพเหตุผลว่าเป็นข้อกำหนด แม้จะเกิดผลดี แต่ก็ยังไม่ดีที่สุด ความเคารพที่ดีที่สุดต้องเป็นความเคารพที่ออกจากจิตใจ ได้แก่จิตใจที่มองเห็นความดีของผู้อื่นในด้านชาติวุฒิ คุณวุฒิ วัยวุฒิ และจิตใจเช่นนั้นก็กระตุ้นให้แสดงออกในรูปของการทำความเคารพ ในทางพุทธศาสนาได้กล่าวถึงความเคารพชนิดนี้ ว่าจะเป็นเครื่องมือกำจัดกิเลส ๔ ประการ คือ
                ๑. มักขะ ลบหลู่ความดีของผู้อื่น ทั้งๆ ที่ผู้อื่นมีความดี ก็มองไม่เห็นว่าจะดีอย่างไร เห็นไปว่าเป็นการยกย่องกันไปเอง เป็นเรื่องของค่านิยม หาสาระอะไรไม่ได้
                ๒. ปลาสะ ตีเสมอผู้อื่น คือแม้จะยอมรับว่าผู้อื่นมีดีจริง แต่ก็ยกตัวขึ้นเทียบว่ามีดีเท่ากับ ไม่เห็นมีอะไรแตกต่าง ทั้งที่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่
                ๓. ถัมภะ หัวดื้อ ไม่ฟังเหตุผลของใคร จนก่อความยุ่งยากวุ่นวายอยู่เนืองๆ
                ๔. อติมานะ ดูหมิ่นผู้อื่น เห็นว่าผู้อื่นเลวกว่าตนไปเสียหมด
                ทั้ง ๔ ประการนี้ เป็นกิเลสที่มีผลต่อบุคลิกภาพโดยตรง ทำให้เป็นที่รังเกียจระอาของผู้อื่น ทั้งตนเองก็ต้องคลาดจากความดีที่ควรจะได้ เพราะเป็นการตัดหนทางแห่งการพัฒนาศักยภาพและความคิดอ่านที่สูงขึ้นไปถึงจะมีความรู้ความสามารถเป็นทุนเดิมอยู่บ้าง แต่ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต
                เพียงยกมือขึ้นทำความเคารพครั้งหนึ่ง แล้วเอามือลง ง่ายและสั้นจนแทบเรียกไม่ได้ว่าเป็นการลงทุนแต่ผลที่ได้นั้นมหาศาล เพราะเป็นที่มาของความนิยมศรัทธาจากผู้อื่นว่าเป็นผู้มีวินัย มีวัฒนธรรม รู้จักที่ต่ำที่สูง น่าคบหา ยิ่งเป็นการทำความเคารพที่ออกจากใจด้วยแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยกระดับชีวิตจิตใจของตนเองให้สูงขึ้นในทุกขณะที่ทำนั่นเอง
............................................