เกราะกันทุกข์
คำว่า “เกราะ” ตามพจนานุกรม
ให้ความหมายไว้หลายอย่าง ในที่นี้ เกราะ
หมายถึงเครื่องสวมใส่หรือเครื่องหุ้มสำหรับป้องกันอาวุธหรืออันตราย เช่น
เสื้อเกราะ รถเกราะ เป็นต้น
ซึ่งก็ยังถือว่าเป็นเครื่องป้องกันภัยอันตรายแต่เพียงร่างกายภายนอกเท่านั้น
ยังมีเกราะอีกชนิดหนึ่งได้แก่ ศีล
ซึ่งเป็นเกราะภายใน สามารถป้องกันตนให้รอดพ้นจากความทุกข์ ความชั่ว
ความเสื่อมเสียในชีวิตได้แน่นอน ทำให้ได้ความสบายใจ เย็นใจ
ไม่ต้องหวาดผวาเพราะระแวงว่าคนนั้นจะฟ้องร้องคนนี้จะจองเวร คนโน้นจะกล่าวโทษ
เพราะคนมีศีลนั้น จะอยู่ร่วมกันด้วยไมตรี ยินดีในสิทธิของตน ไม่สบสนในประเวณี
เปล่งวจีโดยซื่อสัตย์ และเคร่งครัดในความไม่ประมาท ศีลจึงเป็นหลักประกันที่มั่นคง
เพื่อความสุขและความปลอดภัยของชาวโลกดังคำว่า สีลัง กะวะจะมัพภุตัง แปลว่า
ศีลเป็นเกราะอันน่าอัศจรรย์
แต่การจะให้คนมีศีล รักษาศีลโดยปราศจากค่านิยมในศีลย่อมเป็นเรื่องยาก
จึงจำเป็นต้องมีธรรมควบคู่ไปด้วย เพราะคุณธรรมคือ เมตตา สัมมาอาชีพ
ความรู้จักพึงพอใจในคู่ครอง ความซื่อสัตย์ และสติปัญญา รู้จักแยกแยะผิดถูกบาปบุญ
จะช่วยปรุงแต่งจิตใจให้สะอาด สว่าง สงบ มีความประณีตโน้มเอียงเข้าหาความสงบสำรวมสามารถตั้งมั่นอยู่ในศีลได้ตลอดไป
เมื่อพูดถึงการป้องกันตนเอง
คนทั้งหลายมักมุ่งถึงการป้องกันตนเองจากคนอื่นหรือสิ่งอื่นซึ่งแม้จะจำเป็นแต่ก็ยังไม่ปลอดภัยแท้
แต่การป้องกันตนเองจากตนเองที่ย่อหย่อนศีลธรรมด้วยการดำรงมั่นอยู่ในศีลธรรม
เป็นความปลอดภัยสูงสุด เป็นเกราะวิเศษ เพราะคุ้มครองได้ทั้งตนเองและเพื่อนมนุษย์
ดังคำสุภาษิตว่า
ศีลธรรมนำโลกให้ จำเริญ
โลกห่างธรรมธรรมเหิน โลกเศร้า
ธรรมกับโลกร่วมเดิน เคียงคู่ สราญพ่อ
โลกสุขทุกค่ำเช้า ชิดเชื้อธรรมเสมอ
............................................