วันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2560

เกราะกันทุกข์

เกราะกันทุกข์
                คำว่า “เกราะ” ตามพจนานุกรม ให้ความหมายไว้หลายอย่าง ในที่นี้ เกราะ หมายถึงเครื่องสวมใส่หรือเครื่องหุ้มสำหรับป้องกันอาวุธหรืออันตราย เช่น เสื้อเกราะ รถเกราะ เป็นต้น ซึ่งก็ยังถือว่าเป็นเครื่องป้องกันภัยอันตรายแต่เพียงร่างกายภายนอกเท่านั้น
                ยังมีเกราะอีกชนิดหนึ่งได้แก่ ศีล ซึ่งเป็นเกราะภายใน สามารถป้องกันตนให้รอดพ้นจากความทุกข์ ความชั่ว ความเสื่อมเสียในชีวิตได้แน่นอน ทำให้ได้ความสบายใจ เย็นใจ ไม่ต้องหวาดผวาเพราะระแวงว่าคนนั้นจะฟ้องร้องคนนี้จะจองเวร คนโน้นจะกล่าวโทษ เพราะคนมีศีลนั้น จะอยู่ร่วมกันด้วยไมตรี ยินดีในสิทธิของตน ไม่สบสนในประเวณี เปล่งวจีโดยซื่อสัตย์ และเคร่งครัดในความไม่ประมาท ศีลจึงเป็นหลักประกันที่มั่นคง เพื่อความสุขและความปลอดภัยของชาวโลกดังคำว่า สีลัง กะวะจะมัพภุตัง แปลว่า ศีลเป็นเกราะอันน่าอัศจรรย์
                แต่การจะให้คนมีศีล รักษาศีลโดยปราศจากค่านิยมในศีลย่อมเป็นเรื่องยาก จึงจำเป็นต้องมีธรรมควบคู่ไปด้วย เพราะคุณธรรมคือ เมตตา สัมมาอาชีพ ความรู้จักพึงพอใจในคู่ครอง ความซื่อสัตย์ และสติปัญญา รู้จักแยกแยะผิดถูกบาปบุญ จะช่วยปรุงแต่งจิตใจให้สะอาด สว่าง สงบ มีความประณีตโน้มเอียงเข้าหาความสงบสำรวมสามารถตั้งมั่นอยู่ในศีลได้ตลอดไป
                เมื่อพูดถึงการป้องกันตนเอง คนทั้งหลายมักมุ่งถึงการป้องกันตนเองจากคนอื่นหรือสิ่งอื่นซึ่งแม้จะจำเป็นแต่ก็ยังไม่ปลอดภัยแท้ แต่การป้องกันตนเองจากตนเองที่ย่อหย่อนศีลธรรมด้วยการดำรงมั่นอยู่ในศีลธรรม เป็นความปลอดภัยสูงสุด เป็นเกราะวิเศษ เพราะคุ้มครองได้ทั้งตนเองและเพื่อนมนุษย์ ดังคำสุภาษิตว่า
                                ศีลธรรมนำโลกให้              จำเริญ
                                โลกห่างธรรมธรรมเหิน    โลกเศร้า
                                ธรรมกับโลกร่วมเดิน         เคียงคู่ สราญพ่อ
                                โลกสุขทุกค่ำเช้า                  ชิดเชื้อธรรมเสมอ

............................................