วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559

การพึ่งพาอาศัยกัน


                                                     ป่าพึ่งเสือหมู่ไม้            มากมูน
                                                เรือพึ่งพายพายูร-                 ยาตรเต้า
                                                นายพึ่งบ่าวบริบูรณ์             ตามติด มากแฮ
                                                เจ้าพึ่งข้าค่ำเช้า                     ช่วยสิ้นเสร็จงานฯ
                เมื่อพิจารณาเนื้อความของโคลงโลกนิติข้างต้น ทำให้เห็นได้ว่า มนุษย์เราจะอยู่โดยไม่พึ่งพาอาศัยบุคคลอื่นหรือสิ่งใดเลยนั้นเป็นไปไม่ได้ จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับผู้อื่น และสิ่งอื่นไม่มากก็น้อย และสิ่งที่สัมพันธ์กันนี้ช่วยให้แต่ละฝ่ายได้รับประโยชน์หรือเกิดผลดีแก่กันและกัน ลองมาแยกการพึ่งพาอาศัยกันตามโคลงบทนี้ได้เป็น ๔ กลุ่ม คือ
                ๑.ป่าพึ่งเสือ ป่าไม้ที่มีเสืออาศัยอยู่ ย่อมทำให้ต้นไม้ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนกลัวเสือ จึงไม่กล้าเข้าไปตัดไม้ทำลายป่า และในขณะเดียวกัน ป่านั้นก็เป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์เป็นที่หากินและที่อยู่อาศัยให้กับเสือ
                ๒.เรือพึ่งพาย เรือที่อาศัยไม้พายย่อมแล่นไปถึงที่หมาย ไม้พายจึงมีความหมายกับเรือมาก เพราะถ้าขาดไม้พายเสียแล้ว เรือก็จะลอยเคว้งคว้างไปตามกระแสน้ำและไร้ทิศทาง ดังนั้น คุณค่าของไม้พายจึงอยู่ที่ช่วยให้เรือไปถึงจุดหมายปลายทางตามที่ต้องการ ไม้พายจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเรือ
                ๓.นายพึ่งบ่าว การที่เจ้านายมีบริวารคอยปรนนิบัติรับใช้ ก็เพราะมีน้ำใจไมตรีต่อบริวาร เข้าทำนองว่า “บริวารมา เพราะน้ำใจมี บริวารหนี เพราะน้ำใจลด บริวารหมด เพราะน้ำใจแห้ง” เมื่อมีไมตรีต่อกันจึงเกิดความอบอุ่นทั้งสองฝ่าย คือเจ้านายให้ความเมตตารักใคร่ ฝ่ายบริวารก็จงรักภักดี คอยเป็นหูเป็นตา และช่วยป้องกันภัยให้เจ้านาย ในทุกสารทิศ เจ้านายดี มีลูกน้องดี ย่อมเกิดความสุข ต่างพึ่งพาอาศัยกันได้
                ๔.เจ้าพึ่งข้า การที่นายจ้างพึ่งลูกจ้างหรือเจ้านายพึ่งคนรับใช้ จะช่วยให้การงานสำเร็จลุล่วงไป โดยที่นายจ้างหรือเจ้านายให้รางวัล และคำชมเชยในการทำงาน ไม่ดูถูกผู้น้อย ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีกำลังใจขึ้น เมื่อคนเรามีกำลังใจดี สุขภาพจิตดี ก็จะตั้งใจทำงานและทุ่มเทจนสุดกำลัง ทำงานให้ลุล่วงไปด้วยความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และต่อผู้เป็นนายจ้าง หรือเจ้านายนั้น
                เห็นได้ว่า การถ้อยทีถ้อยอาศัยกันระหว่างบุคคลและสิ่งต่างๆ เมื่อต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ให้ดีย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่กันและกัน โดยเฉพาะมนุษย์ เมื่อไปสัมพันธ์กับบุคคลใดหรือสิ่งใดแล้ว ไม่ไปสร้างปัญหาหรือไม่ไปทำลายสิ่งนั้น ก็จะช่วยให้โลกที่เราอาศัยอยู่นี้ดำเนินไปอย่างราบรื่นและน่าอยู่ยิ่งขึ้น

............................................