วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ความเกรงใจ


                การที่เราไม่กล้าปลุกคนที่กำลังนอนหลับอยู่ก็ดี ไม่อยากรบกวนขณะที่เขากำลังมีภารกิจยุ่งอยู่ก็ดี หรือไม่กล้าเอ่ยปากขอร้องเขาเพื่อขอความช่วยเหลือก็ดี ลักษณะเช่นนี้เป็นมารยาทที่ดีอย่างหนึ่ง เรียกว่า ความเกรงใจ คือ ความคิดที่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นต้องลำบากเดือดร้อน หรือรำคาญใจเพราะตน
                ธรรมดาของคนที่อยู่ร่วมกันตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป ย่อมจะมีใครบางคนที่ชอบพูดหรือทำอะไรแบบไม่เกรงใจกัน ไม่คำนึงว่าผู้อื่นจะรู้สึกอย่างไร ขอให้ได้พูดหรือทำตามอารมณ์ของตนก็พอ เช่นนี้ไม่ดีแน่ มีแต่จะสร้างปัญหา หรือความเกลียดชังให้เกิดแก่ตนเปล่าๆ สิ่งที่จะช่วยประสานให้การอยู่ร่วมกันอย่างสันติอย่างหนึ่งคือ ความเกรงใจต่อกัน หรือให้เกียรติกัน หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง พออดทนไหวก็อดทนอดกลั้นไว้บ้าง
                การกระทำก็ต้องระมัดระวังเช่นเดียวกัน เช่น ไม่ก่อความรำคาญแก่คนอื่นที่อยู่ร่วมกันหลายคน จะเอาสะดวกสบายเหมือนอยู่คนเดียวไม่ได้ การอยู่คนเดียวอาจจะทำอะไรได้ตามใจชอบ แต่ถ้าอยู่หลายคนจะทำอย่างนั้นไม่ได้ ต้องรู้จักเกรงใจคนอื่น มิเช่นนั้นจะเกิดการขัดใจกัน เช่น คนหนึ่งจะนอนอีกคนหนึ่งจะร้องเพลง คนหนึ่งต้องการความสงบ ต้องการอ่านหนังสือ อีกคนต้องการเปิดวิทยุเสียงดัง เมื่อความต้องการเกิดขัดกันเช่นนี้ ความขัดแย้งความนึกรังเกียจชินชังย่อมบังเกิดขึ้น อันเป็นเหตุนำมาซึ่งการขาดความปรองดองสามัคคีกันในที่สุด
                ความเกรงใจมีจุดที่น่าสนใจ ตรงที่เห็นความสำคัญในความรู้สึกของผู้อื่นเป็นใหญ่กว่า ความรู้สึกของตน รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา เข้าถึงความจริงของธรรมชาติว่าเรารู้สึกเช่นไร ผู้อื่นก็เป็นเช่นนั้น ทั้งๆ ที่บางขณะอยากทำอยากพูดอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ข่มระงับความต้องการนั้นไว้ เพราะเกรงจะไปกระทบความรู้สึกของคนอื่น กลัวว่าเขาจะไม่สบายใจและเกิดความรังเกียจตน คนที่มีความเกรงใจผู้อื่นเช่นนี้ จะเป็นคนมีเสน่ห์ น่ารัก เป็นที่เมตตาของคนทั่วไป ต่างจากคนที่ขาดความเกรงใจคนอื่นไม่คำนึงว่าใครเขาจะคิดอย่างไร จะเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลายไม่มีใครอยากคบด้วย เพราะฉะนั้นจึงควรพิจารณาดูตัวเองอยู่เนืองๆ ว่าเราเป็นคนประเภทไหน วันนี้เกรงใจใครบ้างหรือยัง

.........................................