มีผู้คนจำนวนมากที่มักวิตกกังวล
หมกมุ่นครุ่นคิดถึงเรื่องต่างๆ จนเกิดความทุกข์ล่วงหน้าทั้งที่เหตุการณ์ยังไม่เกิด
เช่น นักเรียนบางคนกังวลว่าจะสอบไม่ได้ จะเรียนไม่จบ กลัวไปสารพัด จะกินจะนอน จะทำกิจวัตรใดๆ
ก็ครุ่นคิดแต่เรื่องที่จะสอบไม่ได้ทั้งที่ยังไม่ได้สอบ
ข้าราชการบางคนเมื่อได้รับมอบหมายงาน ก็เริ่มวิตกกังวล กลัวว่าจะทำไม่ได้
กลัวผู้บังคับบัญชาจะกวดขันเพ่งเล็ง
หรือกลัวว่าจะเกิดอุปสรรคอย่างนั้นอย่างนี้อยู่ตลอด
จนขาดความมั่นใจและรู้สึกเครียด บางคนก็วิตกกังวลกับเรื่องของชีวิต
ห่วงว่าถ้าต้องเจ็บป่วยไปเสียคนหนึ่ง ครอบครัวจะอยู่ได้อย่างไร
แล้วก็หวดหวั่นกลัดกลุ่มไปกับความคิดที่คิดขึ้นมาเองนั้น
ทั้งที่เป็นเรื่องที่คิดขึ้นมาเอง
จะคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระซะทีเดียวก็ไม่ได้ เพราะถ้าสอบตกขึ้นมาจริงๆ
ก็คงไม่ดีเป็นแน่ ถ้าทำงานแล้วเกิดความเสียหายผิดพลาดก็ต้องทุกข์ใจเป็นธรรมดา
หรือถ้าเจ็บป่วยทุพพลภาพลงก็จะเป็นมรสุมชีวิตครั้งใหญ่ จริงๆ
ที่คิดทั้งหมดนั้นก็เป็นเรื่องที่มีสาระนั่นแหละ เพียงแต่จับสาระไม่ถูก
เพราะสาระของเรื่องที่เหล่านั้นก็คือต้องเอาความกังวลนั่นแหละเป็นเครื่องตัดความกังวล
เมื่อกังวลว่าจะสอบไม่ผ่านก็ต้องศึกษาค้นคว้า อย่างเต็มที่
จดจ่อทุ่มเทให้กับการอ่านจนไม่มีเวลาไปกังวลกับเรื่องที่จะสอบไม่ผ่านอีก
มนุษย์เรามีข้อเสียโดยส่วนใหญ่อย่างหนึ่งคือ
ลำพังความคิดอย่างเดียวก็ทำให้เกิดความทุกข์ได้เป็นความทุกข์กินเปล่า ที่แทบจะหาที่มาที่ไปไม่ได้เลย
แต่สามารถกัดกร่อนชีวิตได้อย่างเหลือเชื่อ แต่หากมองในแง่ดีคือ
ลำพังความคิดนี้เหมือนกันถ้าคิดดีคิดถูก ก็จะทำให้นำมาซึ่งความสุขได้อย่างไม่ยาก
ฉะนั้นจึงควรศึกษาที่จิตใจนี้เถิด จึงจะสามารถทำให้ไม่ต้องพบกับคำว่า
“ความทุกข์กินเปล่า” อีกต่อไป
............................................