วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

การแก้ปัญหา

การแก้ปัญหา
                ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ใกล้หมู่บ้านชื่อขานุมตะ ในแคว้นมคธ มีพราหมณ์ชื่อ กูฏทันตะ ผู้ปกครองหมู่บ้าน เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้ากราบทูลขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการแก้ปัญหาบ้านเมือง พระพุทธองค์ได้ตรัสเล่าเรื่องในอดีตให้ฟังว่า “มีพระเจ้าแผ่นดินในอดีต พระองค์หนึ่งพระนามว่า พระเจ้ามหาวิชิตราช เป็นกษัตริย์ผู้มั่งคั่ง มีพระราชทรัพย์มากมาย พระองค์ทรงดำริถึงความสมบูรณ์และความมั่งคั่งในแผ่นดินของพระองค์ วันหนึ่งได้ตรัสเรียกพราหมณ์ที่ปรึกษาการแผ่นดินเข้ามาเฝ้าและถามถึงความเป็นอยู่ของประชาชนในปกครอง ได้ทรงทราบถึงความไม่สงบสุขในชนบทและตามหัวเมืองต่างๆ ว่ายังมีโจรผู้ร้ายชุกชุม มีการปล้นฆ่าเบียดเบียนทำร้ายร่างกายกันปรากฏอยู่ทั่วไป ไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตามที่พราหมณ์กราบทูล จึงดำริว่า การที่จะรื้อฟื้นประกอบพิธีกรรมบูชายัญและการจะปราบปรามโจรผู้ร้าย เช่น ประหารชีวิต จองจำคุมขังอย่างเดียวคงจะไม่ได้ผลเด็ดขาด และไม่มีที่สิ้นสุด เห็นควรใช้วิธีอื่นที่ดีกว่าคือ การสงเคราะห์ กล่าวคือสนับสนุนอาชีพของประชน โดยส่งเสริมกสิกรรม พาณิชยกรรม ตลอดจนการรับราชการ เช่น ให้พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์แก่เกษตรกร ให้ทุนแก่ผู้ประกอบการค้าขาย ให้เพิ่มเงินเดือนและรางวัลตอบแทนตลอดจนบำเหน็จบำนาญแก่ข้าราชการ เป็นต้น จึงมีรับสั่งให้ดำเนินการตามนั้น ผลปรากฏว่าประชาชนมีความสงบสุขอยู่ดีกินดี บ้านเมืองปราศจากโจรผู้ร้าย ไม่มีการเบียดเบียนกัน บ้านเมืองก็ปลอดภัยถึงขนาดไม่ต้องลงกลอนประตูหน้าต่างอีกต่อไป”
                จากเรื่องดังกล่าวทำให้มองเห็นปัญหา สาเหตุและวิธีการแก้ปัญหาอย่างชัดเจน ปัญหาต่างๆ มีสาเหตุกดดันมาจากปัญหาปากท้องเป็นส่วนสำคัญ วิธีการแก้ปัญหาเหล่านั้นมิใช่จะแก้ได้ด้วยการปราบปรามอย่างเดียว หากแต่ควรแก้ไขที่สาเหตุอันจะทำให้เกิดผลและเป็นผลที่ยั่งยืนอย่างจริงจัง จึงจำต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีสงเคราะห์ประชาชนในด้านความเป็นอยู่ควบคู่ไปด้วย

............................................