หญิงอายุ 40 กว่าๆคนหนึ่งพาลูกชายของเธอเดินเข้าไปในสวนดอกไม้ภายในอาคารสำนักงานใหญ่ของ
บริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง และนั่งลงบนม้านั่งยาวตัวหนึ่งเพื่อกินอาหาร ผ่านไปครู่หนึ่งผู้หญิงคนนั้นก็โยนทิ้งเศษกระดาษลงบนพื้น
ในที่ไม่ไกลนักมีชายชราคนหนึ่งกำลังตัดแต่งดอกไม้ เขาไม่พูดอะไรสักคำ
เดินเข้ามาหยิบเศษกระดาษแล้วทิ้งเข้าไปในถังขยะที่อยู่ข้างๆ ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง
หญิงคนนั้นก็โยนเศษกระดาษลงบนพื้นอีก ชายชราก็เดินเข้ามาหยิบเศษกระดาษทิ้งเข้าไปในถังขยะอีก .และก็เป็นเช่นนี้ อีก
ชายชราต้องเก็บเศษกระดาษถึง 3 ครั้ง
หญิงคนนั้นชี้ไปที่ชายชราแล้วพูดกับลูกชายว่า :
เห็นไหม ถ้าเธอตอนนี้ไม่เรียนหนังสือให้ดีๆ
ในภายหน้าเธอก็จะเป็นเหมือนเขาไม่มีอนาคต ทำได้แต่เพียงงานที่ต่ำต้อยเช่นนี้
ชายชราได้ยินเช่นนั้น
ก็วางกรรไกรแล้วเดินเข้ามาพูดว่า : สวัสดี
ที่นี่เป็นสวนส่วนบุคคลของเครือบริษัทนี้ เธอเข้ามาได้อย่างไร?
หญิงวัยกลางคนนั้นพูดอย่างหยิ่งๆว่า
: ฉันคือผู้จัดการฝ่ายที่บริษัทเพิ่งรับเข้ามา
ตอนนั้นเองก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ
และมายืนอยู่ตรงหน้าชายชราอย่างเคารพนอบน้อม แล้วพูดว่า : ท่านประธาน
การประชุมกำลังจะเริ่มแล้วครับ
ชายชราจึงพูดว่า
: ตอนนี้ฉันขอเสนอว่าให้เลิกจ้างผู้หญิงท่านนี้ !
ครับ
ผมจะรีบไปดำเนินการตามคำสั่งของท่านครับ ! ชายคนนั้นรีบขานรับ
ชายชราสั่งเสร็จก็เดินมาที่เด็กชาย
เขาเอามือลูบที่ศีรษะของเด็กชายหนึ่งครั้ง แล้วพูดว่า : ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจนะ “ในโลกนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องเรียนรู้ที่จะให้เกียรติคนทุกคนและผลงาน
จากการลงแรงของคนทุกคน”
หญิงวัยกลางคนนั้นถูกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ตกตะลึง
หล่อนอ่อนระทวยอยู่บนม้านั่งยาวนั้น ถ้าหล่อนรู้ว่าชายชรานั้นเป็นประธานบริษัท
ก็ย่อมไม่ทำเรื่องเช่นนั้นแน่นอน แต่ว่าหล่อนทำไปแล้ว
แต่ที่ทำก็เฉพาะต่อหน้าประธานบริษัทที่ดูคล้ายฐานะคนดูแลสวน เพราะอะไรล่ะ ???
นี่เพราะฐานะตัวตนที่สูงต่ำใช่ไหม
? การให้เกียรติคน
อย่าได้แยกแยะจากฐานะตัวตน นี่คือลักษณะในตัวที่สง่างาม
ลักษณะในตัวที่สง่างามแสร้งทำออกมาไม่ได้ ในที่สุดก็จะเผยธาตุแท้ออกมา
ทรัพย์สินความร่ำรวยไม่ใช่เป็นเพื่อนชั่วชีวิต
การเรียนรู้ที่จะให้เกียรติผู้อื่นจึงจะเป็นทรัพย์สินความร่ำรวยชั่วชีวิต
มีเพียงสิ่งนี้จึงจะเป็นสภาพเขตแดนที่สูงที่สุดของชีวิตคนเรา
ที่มา: ไม่ทราบ
ต้องขออภัยเจ้าของบทความ ที่นำมาเผยแพร่โดยไม่แจ้ง