วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ธรรมะของผู้ยากไร้

ธรรมะของผู้ยากไร้ 
    คหบดีหนึ่ง บ้านช่องสวยงามตระการตา แต่ติดรั้วบ้านเก่าสังกะสีผุๆ ตื่นมาทุกเช้ามองออกไปเห็นบ้านเฮงซวยหลังนี้ ทิวทัศน์ ทัศนวิสัย อุบาดมาก 

     เลยวันหนึ่งกูทนไม่ไหวแล้ว เห็นตาแก่เจ้าของบ้านสังกะสีตื่นมาพอดี เดินไปหาและถามว่า 

     "บ้านมึงขายไหม กูเห็นทุกวันอุบาดตามาก ขายเท่าไรก็ซื้อ" 

     เจ้าของบ้านสังกะสีอันซอมซ่อ เงยหน้าพร้อมพูดจานุ่มนวลอ่อนโยนว่า 

     "ท่านผู้มีอันจะกิน ไม่ขายขอรับ ทุกเช้าผมตื่นมา เห็นปราสาทที่งดงามของท่าน ผมมีความสุขเห็นแต่สิ่งงดงามตระการตาทุกเช้าสายบ่ายเย็น ถ้ากระผมขายบ้านให้ท่านไป กระผมก็จะไม่ได้เห็นสี่ที่งดงามตระการตาอีกต่อไป" 

     คหบดีถามต่อ "แล้วมึงไม่ดูบ้านตัวเองว่าอุจาดตาแค่ไหน อยู่ได้ยังไงนี่" 

     "ขอรับกระผม กระผมแค่อาศัยอยู่ด้วยจิตที่เสาะแสวงหาแต่ความดีและสวยสดงดงามในเมื่อมันไม่งาม กระผมก็ไม่สนใจดู 

     กระผมดูแต่ความงามความดีเท่านั้นอะไรไม่ดีไม่งามกระผมไม่ใส่ใจขอรับ 

     กระผมไม่เข้าใจท่านเหมือนกัน บ้านท่านออกใหญ่โตงดงาม แต่ท่านกลับไม่สนใจ ตื่นเช้ามาก็สนใจแต่บ้านเฮงซวยของกระผม 

     ถ้ากระผมเป็นท่าน จะชื่นชมความงามพร้อมของบ้านตัวเอง แต่ไม่สนใจบ้านที่เฮงซวยของบ้านคนอื่น" 

     หยุดสักพัก ท่านเศรษฐีก็คิดได้ว่าเราคงบ้าไปแล้วที่เอาจิตตัวเองไปจับแต่เรื่องสกปรก จิตตัวเองที่งามมากกับไม่สนใจ แถมยังไปวุ่นวายของนอกกายที่สกปรก รอบข้าง 

     ตั้งแต่นั้นมา คหบดีก็เข้าใจในธรรมของผู้ยากไร้และกลายเป็นกัลยาณมิตร จวบจนสิ้นอายุขัย