ในวงการแพทย์ถือว่า
การพักผ่อนที่ดีที่สุด คือการนอนหลับ การนอนหลับเป็นยาขนานวิเศษ
บำบัดความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าของร่างกาย เมื่อเราหลับสนิท
พอตื่นขึ้นมาอาการเมื่อยล้าก็หายไป ใครที่เป็นโรคนอนไม่หลับ
จะรู้สึกว่ามันแสนจะทรมานจริงๆ แล้วจะทำอย่างไรจึงจะหลับ ก่อนอื่นจะต้องทราบว่า หลับเป็นอาการเกี่ยวพันระหว่างกายกับใจ
เมื่อใจหลับกายหลับ คืออาการที่จิตได้พักผ่อนหรือเข้าสู่ภวังค์ เราจึงเรียกว่าหลับ
ตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาท่านแสดงไว้ว่า
จิตมีหน้าที่ ๔ อย่างคือ รับอารมณ์ที่มากระทบ จำสิ่งที่เกิดกับจิต
คิดเรื่องราวต่างๆ และรู้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ ที่ปรากฏแก่จิต สรุปลงเป็น ๔ คำ ง่ายๆ
ก็คือ รับ-จำ-คิด-รู้ จะเป็นอย่างนี้อยู่ตลอดเวลาขณะที่ไม่หลับ ดังนั้น
เมื่อต้องการนอนให้หลับเราจึงต้องทำให้จิตหยุดรับ หยุดจำ หยุดคิด และหยุดรู้
มีผู้รู้แนะวิธีปฏิบัติไว้ดังนี้
๑.อ่านหนังสือ
คือขณะที่นอนก็หาหนังสือมาอ่านยิ่งเป็นเรื่องที่อ่านยากๆ
มีสำนวนที่เข้าใจยากยิ่งดี ข้อความในหนังสือจะบังคับให้จิตรวมเข้าสู่จุดเดียว
ตัดเรื่องยั่วยุอื่นๆ แล้วคิดแต่เรื่องในหนังสือก็จะทำให้หลับได้
๒.ถืออานาปานสติ คือขณะนอนให้เอาสติมาดูใจตัวเอง ใจอยากคิดอะไรก็คิดไป
ปล่อยให้คิดอิสระพยายามให้สติตามกำหนดรู้ทุกขณะอย่าให้เผลอ
เมื่อเผลอให้เริ่มต้นใหม่ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ประเดี๋ยวใจก็ไม่อยากคิดแล้ว
หยุดพักและก็หลับในที่สุด
๓.เอาสติตามดูใจ
คือขณะนอนให้เอาสติตามดูใจตัวเอง ใจอยากคิดอะไรก็คิดไป
ปล่อยให้คิดอิสระพยายามให้สติตามกำหนดรู้ทุกขณะอย่าให้เผลอ
เมื่อเผลอให้เริ่มต้นใหม่ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
ประเดี๋ยวใจก็ไม่อยากคิดแล้วหยุดพักและก็หลับในที่สุด
๔.ใส่ใจสวดมนต์
คือขณะที่นอนให้สวดมนต์ในใจ สวดแบบที่พระสงฆ์ท่านสวด โดยใช้จังหวะสวดแบบเนิบนาบ
สวดมนต์ไปเรื่อย อย่าให้หลงบทสวด กระทั่งจิตหยุดพักแล้วก็จะหลับไปเอง
๕.ปล่อยตนวางเฉย
คือให้นอนเฉยๆ ปล่อยอารมณ์ไปเรื่อยๆ อย่าคิดอะไรมาก คิดเสียว่ามันอยากหลับก็หลับ
มันไม่อยากหลับก็ช่างมัน นึกเท่านี้ก็ทำให้หลับได้เหมือนกัน
ฉะนั้น
ใครนอนไม่หลับ ลองปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้ดู
แล้วท่านจะนอนหลับง่ายอย่างน่าอัศจรรย์
.............................................