วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อาหารใจ


              เรื่องใหญ่ เรื่องวุ่นวาย ที่ไม่รู้จักจบสิ้น ในชีวิตประจำวัน คือ เรื่องอาหาร เช่น ก่อนจะไปตลาด ก็ต้องคิดว่า จะกินอะไร จะซื้ออะไร เรื่องของการกิน จะหมุนเวียน ซ้ำซาก อยู่เช่นนี้ ตลอดเวลา ที่ยังมีชีวิตอยู่ แม้จะเบื่อแสนเบื่อ ก็จะต้องทำ ต้องกิน เพราะอาหาร เป็นปัจจัย ที่จำเป็น แก่ชีวิต ร่างกาย จะเจริญเติบโต และสมบูรณ์แข็งแรง ได้ก็เพราะ อาหารบำรุง อยู่เสมอ อาหารที่กล่าวถึงนี้ เป็นอาหาร ส่วนร่างกาย ยังมีอาหาร อีกประเภทหนึ่ง เรียกว่า อาหารใจ ส่วนมาก คนมัก จะมองข้าม ไปเสีย วันหนึ่ง ๆ ก็วุ่นวาย อยู่กับ อาหารกาย คนให้ความสนใจ กับอาหารใจ น้อยมาก ความจริงแล้ว อาหารใจ มีความจำเป็น มากกว่า อาหารกาย เสียด้วยซ้ำไป อาหารกาย รับประทาน เพียงวันละ ๓ มื้อ แต่อาหารใจ ต้องรับประทาน อยู่ตลอดเวลา คนที่ขาด อาหารใจ จะทำให้ รู้สึกท้อแท้ เบื่อหน่าย ไม่มี กะจิตกะใจ จะทำอะไร บางครั้ง ทำให้รู้สึก กำหนัดรักใคร่ ต่ออารมณ์ ที่เข้ามา ยั่วยวน กวนใจ บางคราว ทำให้ รู้สึกหงุดหงิด ฟุ้งซ่าน เลื่อนลอย หาหลักไม่ได้ อาการเหล่านี้ เป็นอาการ ที่ใจขาดอาหาร ร่างกาย ที่ขาดอาหาร จะทำให้ ผ่ายผอม อ่อนระโหย โรยแรง ทำการงานอะไร ก็ไม่สำเร็จ ประโยชน์ ฉันใด ใจที่ขาดอาหาร ก็ฉันนั้น
              อาหารใจ หมายถึง อารมณ์ที่ เกิดกับใจ มี ๒ อย่าง คือ อารมณ์ฝ่ายเสีย กับอารมณ์ฝ่ายดี อารมณ์ฝ่ายเสีย เช่น ความละโมบ โลภมาก ความเศร้าหมอง ขุ่นเคือง ความริษยาพยาบาท เหล่านี้ เป็นอารมณ์ฝ่ายเสีย ทำให้ เป็นพิษเป็นภัย แก่จิตใจ เป็นเชื้อโรค ที่ทำลายแรงใจ ทำให้จิตใจ ทรุดโทรม ส่วนอารมณ์ฝ่ายดี เช่น ความมานะพยายาม ความต่อสู้อดทน ความซื่อสัตย์สุจริต ความร่าเริงแจ่มใส ความเมตตากรุณา เหล่านี้ เป็นอารมณ์ฝ่ายดี ถ้าใจได้ดื่มด่ำ อยู่กับอารมณ์เหล่านี้ โรคร้ายทั้งหลาย ก็จะไม่มากล้ำกราย จิตใจก็จะ เข้มแข็ง สมบูรณ์ สามารถ ประกอบกิจการงาน ด้วยความผาสุก
โปรดอย่าลืมเตือนตัวเองว่า วันนี้ท่านให้อาหารใจของท่านหรือยัง